จรวด New Glenn ของ Blue Origin เตรียมขึ้นบินในเที่ยวบินแรก


Logo Thai PBS
แชร์

จรวด New Glenn ของ Blue Origin เตรียมขึ้นบินในเที่ยวบินแรก

https://www.thaipbs.or.th/now/content/1545

จรวด New Glenn ของ Blue Origin เตรียมขึ้นบินในเที่ยวบินแรก
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

NASA และ Blue Origin ได้ประกาศวันทดสอบสำคัญสำหรับจรวด New Glenn ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 13 ตุลาคม 2024 ภารกิจนี้จะเป็นการนำยานอวกาศขนาดเล็กของ NASA ชื่อว่า EscaPADE เดินทางสู่ดาวอังคาร ถือเป็นก้าวสำคัญทั้งสำหรับ NASA ในการพัฒนาโครงการสำรวจดาวอังคาร และสำหรับ Blue Origin ในการทดสอบขีดความสามารถของจรวดขนส่งขนาดใหญ่รุ่นนี้

New Glenn เป็นจรวดขนส่งขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย Blue Origin บริษัทเอกชนด้านอวกาศที่ก่อตั้งโดย Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon จรวดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งทั้งดาวเทียมและมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศ โดยเฉพาะในภารกิจวงโคจรของโลกและภารกิจสำรวจอวกาศไกล ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดจรวดขนส่งขนาดใหญ่ยังทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น New Glenn เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เนื่องจากมันสามารถลดต้นทุนการขนส่งและเปิดโอกาสให้ภารกิจสำรวจอวกาศมีความหลากหลายมากขึ้น

ฐานปล่อยหมายเลข LC-36 อันเป็นจุดปล่อยประวัติศาสตร์

จรวด New Glenn มีสองขั้น (Two-stage rocket) และขั้นแรกของจรวดนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่นเดียวกับจรวด Falcon 9 ของ SpaceX การออกแบบนี้เป็นการต่อยอดแนวคิดการใช้งานซ้ำที่ SpaceX ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ การนำจรวดขั้นแรกกลับมาใช้ใหม่ช่วยลดต้นทุนการปล่อยจรวดได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การเดินทางสู่อวกาศสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งขึ้นและมีต้นทุนที่ถูกลง นอกจากนี้ จรวด New Glenn ยังได้รับการตั้งชื่อตาม John Glenn นักบินอวกาศชาวอเมริกันคนแรกที่โคจรรอบโลก

หนึ่งในความสามารถที่โดดเด่นของ New Glenn คือการบรรทุกน้ำหนักได้มากถึง 45 ตันสู่วงโคจรต่ำของโลก (LEO) ซึ่งเป็นความสามารถที่สำคัญสำหรับภารกิจขนาดใหญ่ เช่น การขนส่งดาวเทียมขนาดใหญ่หรือการส่งยานอวกาศที่มีน้ำหนักมากไปยังเป้าหมายที่ไกลขึ้นในอวกาศ

จรวด New Glenn ขณะถูกนำขึ้นทดสอบบนฐานปล่อยในช่วงต้นปี 2024

NASA ได้มอบหมายให้ Blue Origin เป็นผู้รับผิดชอบการปล่อยยาน EscaPADE ซึ่งเป็นยานแฝดที่ออกแบบมาเพื่อภารกิจสำรวจดาวอังคารต้นทุนต่ำ โดยใช้เงินเพียง 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เดิมที ยาน EscaPADE มีกำหนดจะปล่อยไปพร้อมกับจรวด Falcon Heavy ของ SpaceX ในเที่ยวบินเดียวกับยาน Psyche ที่มีภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเลื่อนการปล่อยจรวด Falcon Heavy ทำให้ EscaPADE ไม่สามารถเดินทางไปยังดาวอังคารในช่วงเวลาที่เหมาะสม (Launch Window) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตำแหน่งของโลกและดาวอังคารเอื้ออำนวยต่อการเดินทาง ส่งผลให้ NASA ต้องโยกย้ายการปล่อยยาน EscaPADE มาที่จรวดของ Blue Origin แทน เพื่อให้ภารกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ตามแผน

สำหรับการปล่อยจรวด New Glenn นั้น Blue Origin ได้เลือกใช้ฐานปล่อยจรวดที่ Launch Complex 36 (LC-36) ซึ่งตั้งอยู่ที่ Cape Canaveral Space Force Station ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ฐานปล่อย LC-36 มีประวัติยาวนานในการใช้ปล่อยจรวดมาตั้งแต่ยุค 1960 โดยในอดีตเคยใช้ในการปล่อยจรวด Atlas ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจอวกาศหลายโครงการ Blue Origin ได้ปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่นี้ใหม่เพื่อรองรับการปล่อยจรวด New Glenn รวมถึงการลงจอดของขั้นแรกของจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

การพัฒนา LC-36 เป็นฐานปล่อยจรวดแห่งใหม่ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Blue Origin มีความพร้อมในการปล่อยจรวดที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการดำเนินภารกิจในอนาคตของสหรัฐฯ ด้วย

เรียบเรียงโดย ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน 
พิสูจน์อักษร ศุภกิจ พัฒนพิฑูรย์


🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS  

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แท็กที่เกี่ยวข้อง

จรวด New GlennBlue Originองค์การนาซานาซาNASAอวกาศThai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Space - Astronomy
Thai PBS Sci & Tech
ผู้เขียน: Thai PBS Sci & Tech

🌎 "รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก" ไปกับ Thai PBS Sci & Tech • วิทยาศาสตร์ • เทคโนโลยี นวัตกรรม • ดาราศาสตร์ • Media Literacy • Cyber Security • Tips & Tricks • Trends

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด