ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นายกฯแจงปรับครม.หวังสร้างความเชื่อมั่น-เตรียม 5 ภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจรอบด้าน

การเมือง
28 ส.ค. 58
17:00
81
Logo Thai PBS
นายกฯแจงปรับครม.หวังสร้างความเชื่อมั่น-เตรียม 5 ภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจรอบด้าน

นายกฯ ย้ำปรับครม.หวังสร้างความมั่นคงไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มใด และเตรียม 5 ภารกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจรอบด้าน ขอบคุณประชาชนร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่และขอให้ประชาชนปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกายรักษาสุขภาพต่อไป

วันนี้ (28 ส.ค.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2558 เวลา 20.15 น.โดยมีเนื้อหาดังนี้

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้นำคณะรัฐมนตรีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งก็ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม เป็นสิริมงคลแก่ผมและคณะรัฐมนตรีอย่างสูงสุดนะครับ
 
ปรับครม.หวังสร้างความเชื่อมั่น

ส่วนในเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้นั้นปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งในประเทศและสถานการณ์โลกนะครับ และช่วงนี้ก็เป็นช่วงระยะที่ 2 ของรัฐบาลด้วยนะครับ วันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ทั้งภายในประเทศด้วยก็มีการผันผวนอย่างต่อเนื่องนะครับ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา ความมั่นคงด้วยนะครับทั้งนี้ การเปลี่ยนคณะรัฐมาตรีของผมครั้งนี้นั้น ไม่หวังว่าจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอะไรต่างๆ ทั้งสิ้นนะครับ ผมต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ แล้วก็สร้างความเชื่อมั่นในการทำงานของคณะรัฐมนตรีของเรานะครับ ทั้งในชุดที่ 1 และชุดที่ 2-3 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้นะครับทุกอย่างทำต่อเนื่องกันมาโดยตลอดนะครับ โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน
 
เนื่องจากคณะรัฐมนตรีชุดที่ผ่านมานั้นก็เป็นผู้วางรากฐานทำงาน ท่ามกลางปัญหา ข้อขัดแย้งมากมายนะครับ ได้มากำหนดนโยบายใหม่ๆ แก้ไขปัญหาเดิมที่ติดขัด นโยบายเร่งด่วนที่ผมได้กำหนดขึ้นแล้วขณะนี้ก็อยากให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้เข้ามาขับเคลื่อนทำให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วขึ้นนะครับเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ภาคเอกชน รวมทั้งนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จะต้องมีการวางแผนดำเนินการที่ชัดเจนกำหนดระยะเวลาที่จะได้ผลสัมฤทธิ์ที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมนะครับในทุกมิติ ดูในเรื่องของความโปร่งใส มีประสิทธิภาพของการทำงานในเรื่องของโครงการทุกโครงการจะต้องปลอดจากการทุจริตนะครับ

ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดนั้น ผมก็ได้ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลนี้ว่าเราจะไม่ยอมรับการทุจริตคอรัปชั่นโดยเด็ดขาดนะครับ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองขึ้นใหม่นี้ผมได้กำชับรัฐมนตรีทุกคน เน้นความรอบคอบและระมัดระวังในเรื่องของการแต่งตั้งที่ปรึกษาและตำแหน่งอื่นๆ นะครับ จะต้องไม่มีข้าราชการการเมืองคนใดไปแอบอ้างหรือกระทำการใดๆ ที่ส่อไปในทางทุจริตเด็ดขาด

รวมทั้งต้องวางบทบาทตัวเองให้ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ใช่ไปนั่งเป็นประธานหัวโต๊ะสั่งการแทนรัฐมนตรี ไม่ได้นะครับ ไม่มีอำนาจในการสั่งการแทนรัฐมนตรีเพราะมีรัฐมนตรีช่วยกันอยู่แล้วนะครับ การทำงานของข้าราชการนั้นต้องเป็นไปตามสายการบังคับบัญชาเท่านั้นนะครับ ไม่ต้องเอาตำแหน่งหน้าที่ ไปแสวงผลประโยชน์ส่วนตัวนะครับ สร้างความสำคัญไม่ได้ทั้งนั้นนะครับ ข้าราชการการเมืองทุกคนนั้นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในกรอบของกฎหมาย ระเบียบ กติกา และประพฤติตนตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองอย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้นผมยังได้ย้ำให้ กระทรวงต่างๆ นะครับ สร้างการรับรู้กับประชาชนให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายของรัฐที่จะมีผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน เช่น เรื่องพลังงาน โรงไฟฟ้า โรงงานกำจัดขยะ และอื่นๆ อีกมากมายนะครับ
 
การปรับคราวนี้ก็อยากให้มองว่าไม่ใช่ว่าเราต้องการอำนาจ เพียงแต่จำเป็นต้องอยู่ในกลุ่มงานที่เหมาะสมนะครับ ทหารจะอยู่ตรงไหน พลเรือนอยู่ตรงไหน ให้เหมาะสมกับระยะที่ 2 ในระยะที่ 1 นั้นเราจะเน้นเรื่องความมั่นคงเป็นหลักนะครับ เมื่อขณะนี้ก็มีเสถียรภาพพอสมควรแล้วเมื่อเริ่มต้นไปแล้ว ชุดต่อไปก็จะต้องให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานต่อนะครับ มีการปรับปรุง พัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจจะมีผลกระทบในขณะนี้ก็คือเรื่องการหมุนเวียนที่จำเป็นต้องปรับออกไปบ้างนะครับ ก็ไม่ได้ด้วยความขัดแย้งหรืออย่างอื่น ยังให้ความร่วมมืออยู่เสมอนะครับ แล้วก็พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาของท่านเหล่านั้นเพราะท่านทำงานกับผมในระยะแรกเป็นที่น่าพอใจนะครับ ผ่านมานั้นต้องแก้ไขทั้งปัญหาแก้ทั้งกฎหมาย กระบวนการบริหารจัดการ ทั้งหมดที่มันวุ่นวายสับสนอยู่ การจัดระเบียบข้าราชการ ซึ่งอาจทำให้ สังคม หรือประชาชนส่วนหนึ่งมีความรู้สึกว่าเอ๊ะ ช้าไม่ทันการ รัฐบาลนี้มีอำนาจเยอะแยะ ทำไมทำช้า ไม่ทันใจ ก็ขอให้เข้าใจด้วยนะครับ เราไม่สามารถจะทำทุกอย่างให้รวดเร็วโดยที่ไม่มีการไตร่ตรองหรือใคร่ครวญให้ดีที่สุดนะครับ มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาในห้วงต่อไปนะครับ ระยะแรกนั้นการปฏิรูปในเชิงโครงสร้าง การปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่ออนาคต ได้เริ่มกันไว้มากพอสมควรแล้ว

คราวนี้เป็นระยะต่อไปนะครับที่จะต้องเดินหน้าต่อโดยเฉพาะเรื่องของการปฏิรูปนะครับ ซึ่งจะต้องเริ่มทำแนวทางของ สปช. มาศึกษาดูนะครับ อะไรทำได้เราก็จะทำไปเลยนะครับ ทั้งนี้จะต้องแบ่งระยะให้ถูกต้อง กำหนดโรดแมป กำหนดผู้กระทำ ความรับผิดชอบนะครับ ในช่วงที่ 2 ที่ผ่านมาก็ทำไปบ้างแล้วนะครับ วันนี้ก็ ครม.ใหม่เข้ามาก็กำลังทำต่อนะครับ เพราะงั้นบางอย่างทำได้เลยก็ทำไปแล้ว บางอย่างที่กำลังเริ่มก็เริ่มอยู่ พูดหลายครั้งแล้วนะครับ เพราะบางอย่างก็ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งจะต้องชัดเจนใน สนช. นะครับ ผ่านคณะกรรมาธิการนะครับ 3 คณะด้วยกัน กว่าจะออกมาเป็นกฎหมายได้ อะไรที่จำเป็นผมก็ใช้มาตรา 44 ไปก่อน แต่กฎหมายที่จะออกตามมาก็ทำนองเดียวกันนะครับ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วเป็นไปตามกฎระเบียบนะครับ  
 
ในเรื่องของการปฏิรูปการทำงานของรัฐบาลนั้นก็มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะบูรณาการการทำงานร่วมกันให้ได้ ในทุกกระทรวง ในกระทรวงตัวเองก็ต้องเป็นเรื่องของทุกกรม ไม่แบ่งเป็นพรรคเป็นฝ่ายแบบที่เคยเป็นมาในอดีตนะครับ มีการจัดสรรแบ่งงบประมาณแยกไปทำกันเองอย่างนั้นไม่ได้นะครับ เพราะงั้นเราจะต้องทำให้เกิดการบูรณาการให้ได้ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าปฏิรูปเหมือนกันนะครับไม่มีการทำงานซ้ำซ้อน ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณนะครับ หากทำไม่ได้นี่ การบูรณาการทำไม่ได้จริงนี่ จะทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมากโดยไม่จำเป็นนะครับ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ แทนที่จะเอางบตรงนี้ไปให้ตรงโน้นบ้าง ก็รวมไปเป็นบางที่บางทางจนไม่ทั่วถึงนะครับเพราะงั้นต้องเชื่อมโยงกันให้ได้ทั้งในส่วนของการประสานงานระหว่างกระทรวง

การประชุมร่วมกันในเรื่องความเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ฐานข้อมูลต่าง ๆ ต้องใช้ร่วมกันทั้งหมดนะครับไม่งั้นก็ต่างคนต่างทำมันไปไม่ได้ในเรื่องของการบริหารจัดการระบบน้ำ วันนี้ก็ใช้คณะกรรมการที่มาจากทุกกระทรวงนะครับ เดิมตั้ง คสช. มีผู้รับผิดชอบเป็นทหาร วันนี้ก็ใช้คณะทำงานของรัฐบาลนะครับ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแล้วก็มีผู้แทนจากทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนะครับในส่วนของงานแต่ละกลุ่มงานนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานตามรูทีน ตามฟังก์ชั่น อันนั้นก็เป็นเรื่องของทำงานของรัฐบาลปกติอยู่แล้ว ในส่วนของนโยบายเร่งด่วน นโยบายใหม่ๆนะครับ ก็จะมอบให้รองรายกรัฐมนตรีรับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ ในการกำกับดูแลเป็นส่วนรวมนะครับ ในเรื่องของกระบวนการจัดซื้อจัดหาต่างๆนั้น ซึ่งผมก็เร่งรัดนะครับให้เร็วขึ้น เท่าที่ผ่านมามันไม่ค่อยชัดเจน อันนี้ก็ต้องแก้ไขทั้งหมดนะครับต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส รวดเร็ว มีการตรวจสอบ บางโครงการที่จะต้องมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด มีการเอาหน่วยงานภายนอกมาประเมิน มาตรวจสอบด้วยนะครับ ต่างประเทศก็เข้ามาด้วย เพราะงั้นจะต้องมีการประสานงานระหว่างส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

หลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีไปแล้วนะครับ ก็ขอความกรุณาท่านอดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ได้กรุณาทำความเข้าใจกับสื่อด้วยนะครับ เพราะผมเองนั้น ผมก็เป็นกังวลนะครับ หลายๆ อย่างว่าเดี๋ยวจะไม่เข้าใจกันอีกนะครับ ในส่วนของสื่อส่วนของสังคมในภาพรวมผมรับผิดชอบแต่ผู้เดียวนะครับในเรื่องของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีใดก็ตาม หรือรองนายกรัฐมนตรีท่านใดก็ตาม การตัดสินใจ ความรับผิดชอบอยู่ที่ผมนะ เพราะงั้นสิ่งใดก็ตามที่อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ท่านคิด ท่านก็บอกผมมาเท่านั้นเองนะครับผมเป็นผู้กำหนดนโยบาย แล้วก็จะต้องขับเคลื่อนกระทรวงไปพร้อมๆ กัน เพราะงั้นรองนายกรัฐมนตรีทุกๆ กระทรวงก็จะต้องขับเคลื่อนให้ผม ร่วมกับรัฐมนตรี แปลงนโยบายผมไปสู่การปฏิบัติ จากนั้นก็จะส่งไปยังข้าราชการนะครับ ที่อยู่ข้างล่างเป็นผู้ปฏิบัติ

วันนี้ก็เน้นหนักในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดนะครับที่ต้องดูแลข้างล่างในพื้นที่ให้ชัดเจนขึ้น ปัญหาในช่วงที่ผ่านมานั้นก็คือ เริ่มต้นแล้วการขับเคลื่อนยังเป็นไปได้อย่างช้าอยู่นะครับไม่รวดเร็วทุกกลุ่มงานต้องทำให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการ ประชาชน ที่มีส่วนร่วมกัน ปัญหาสำคัญคือหลายอย่างยังคงติดอยู่กับปัญหาเก่านะครับ เหมือนกับเราติดกับดักตัวเองนะ ติดกับดักเรื่องกฎหมาย ติดกับดักเรื่องความคิด ความไม่เข้าใจ อะไรต่างๆ เหล่านี้นะครับ ความไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องปรับเข้าหากัน  ทั้งรัฐบาล ราชการ ประชาชนนะครับ เราจะต้องลดปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ ทั้งในส่วนของการทำงานของรัฐบาล ส่วนของประชาชน มีส่วนร่วม ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าควรจะทำยังไง ตรงไหนให้เดินหน้าไปได้แล้วกัน ไม่งั้นผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมก็ไม่เกิดขึ้น ประชาชนก็เดือดร้อนเหมือนเดิมนะครับ

ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 5 ด้าน

ในเรื่องของการเดินหน้าเศรษฐกิจระยะต่อไปนั้น ผมทราบดีว่า ประชาชนมีความเป็นห่วงนะครับ สถานการณ์ด้านการข่าว หรือเสพจากสื่ออะไรก็แล้วแต่นะครับ แล้วก็กังวลในสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ที่หลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วยจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ประเทศมหาอำนาจนะครับ เช่นจีน หรือทางยุโรป ทางสหรัฐฯก็แล้วแต่ก็มีปัญหากันพอสมควรนะครับ ปัจจัยภายในประเทศของเราก็เกษตรกรต้องประสบกับปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ เพราะงั้นเศรษฐกิจขณะนี้นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นมีผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศ เกิดการชะลอตัวอะไรทำนองนี้นะ ผมอยากให้ทุกท่านเชื่อมั่นนะครับในพื้นฐานและศักยภาพของประเทศไทยที่ยังดีอยู่ เพราะงั้นรัฐบาลจะเร่งเข้าไปแก้ไขในจุดอ่อนต่างๆ เหล่านั้นวางรากฐานสำหรับอนาคตนะครับประคองเศรษฐกิจให้ผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้ และก้าวไปได้อย่างมั่นคง

รัฐบาลมีนโยบายที่จะดูแลสภาพเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ โดยแบ่งการขับเคลื่อนเป็น 5 กลุ่มภารกิจหลักที่ต้องขับเคลื่อนสัมพันธ์ไปด้วยกัน ให้เกิดเป็นรูปธรรม
 
กลุ่มภารกิจที่ 1 เป็นการดูแลช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ ตั้งแต่ตนแล้ว เพื่อประคองให้เค้าผ่านพ้นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจขณะนี้ไปได้ด้วยดี
 
กลุ่มภารกิจที่ 2 คือการดูแลเศรษฐกิจท้องถิ่นและภูมิภาคให้เข้มแข็งเนื่องจากที่ผ่านมาการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอิงกับภาคต่างประเทศ อย่างการส่งออกค่อนข้างมาก เราต้องปรับสมดุล สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจจากภายใน โดยจะเน้นที่การเติบโตในท้องถิ่น ภูมิภาค การพัฒนา 76 จังหวัดให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานหลักที่จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนและทำให้เศรษฐกิจของประเทศหมุนเวียนและขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างยั่งยืนไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การทำกิจการเพื่อสังคม การผลิตสินค้าOTOP  สร้างความเข้มแข็งให้วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์  การส่งเสริมตลาดนัดชุมชน  เป็นต้น
 
กลุ่มภารกิจที่ 3 จะมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพสินค้า ผ่านการส่งเสริมการแปรรูป/การทำ packaging  ให้กับ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ของ SMEs  หรือแม้แต่สินค้าอุตสาหกรรม ที่จะต้องมีการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ นะครับ อันเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน ผู้ผลิตสินค้า และจะช่วยทำให้สามารถแข่งขันกับสินค้าจากต่างประเทศได้  รวมไปถึง การพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น ให้ตรงกับความต้องการและเพิ่มขีดความสามารถและองค์ความรู้ให้กับแรงงาน ทั้งในภาคเอกชน (อุตสาหกรรม) และภาคบริการ

กลุ่มภารกิจที่ 4  จะเป็นการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อวางรากฐานอนาคตเศรษฐกิจของประเทศทั้งในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ให้เชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ เหล่านั้นเข้าด้วยกัน  ซึ่งอาจจะทำให้เร่งการเจริญเติบโตของเรานั้นไปสู่ภูมิภาคด้วยนะครับ แล้วก็ภายในประเทศด้วยให้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน  โดยจะมีการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมเป็น Cluster นะครับ ที่ควรจะส่งเสริมในแต่ละพื้นที่  ซึ่งการลงทุนนี้จะสัมพันธ์กับการพัฒนาท้องถิ่น ที่จะดำเนินการคู่ขนานกันไปนะครับ
 
กลุ่มภารกิจที่ 5  การต่างประเทศ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน และการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 
ผมเองนั้นอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า รัฐบาลตั้งใจอย่างเต็มที่นะครับ และการดำเนินการทั้งหมดที่กล่าวมา จะต้องเป็นไปอย่างมีธรรมาภิบาลและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน เป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร สร้างความเข้มแข็ง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับผู้มีรายได้น้อยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือการวางรากฐานเพื่ออนาคต ที่มุ่งสู่การลงทุนในภูมิภาคและท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้ทุกจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด นะครับ เพราะเมื่อท้องถิ่นเข้มแข็ง ทุกจังหวัดเข้มแข็ง ความเหลื่อมล้ำลดลง ประเทศย่อมเติบโตไปได้ด้วยความมั่นคง ยั่งยืน ด้วยตัวเองนะครับ  ผมอยากให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล ทั้งในช่วงที่ผ่านมา และในช่วงนี้นะครับ แล้วก็เชื่อมันในศักยภาพในประเทศไทยของเรานะครับ  แล้วก็ร่วมมือร่วมใจพัฒนาประเทศไปด้วยกันนะครับ

ขอร่วมประชาสัมพันธ์เชิญนักท่องเที่ยว

ในเรื่องของความมั่นคงการเฝ้าระวังนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับ จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ผมและรัฐบาลทั้งแสดงความเสียใจ แล้วก็ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้งที่ได้ให้ความร่วมมือ ได้ร่วมกันออกมาแสดงพลังของความสามัคคี ต่อไปก็ยังคงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันนำพาประเทศไทยของเราให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเจ้าบ้านที่ดีต่อนักท่องเที่ยว การประสัมพันธ์สิ่งดีๆ ของประเทศเรา หรือการสร้างความเชื่อมั่นกับชาวต่างประเทศให้กลับมา ทุกคนมีส่วนมีขีดความสามารถที่จะช่วยกันทำได้ สำหรับภาคเอกชน บริษัท ห้างสรรพสินค้า โรงแรม บริษัท รวมถึงร้านค้าทั่วไป ท่านสามารถช่วยรัฐบาลได้โดยการติดตั้ง เพิ่มจำนวนหรือเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์เฝ้าระวัง เช่น กล้อง CCTV ตามพื้นที่ต่างๆ นะครับ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ในการติดตามคนร้ายที่มีความคืบหน้าตามลำดับนะครับ ขอให้เวลาให้เจ้าหน้าที่ในการทำงานด้วยนะครับ
.
ให้ประชาชนรักษากระแสการปั่นจักรยานต่อไป

หลังจากกิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ‘Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่’ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมานั้น มีประชาชนทั่วประเทศจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ข้าราชการ คนพิการ นักกีฬา คนในวงการบันเทิง เด็ก ผู้ใหญ่ คนมีอายุ มาขี่กันหมดเลยนะครับทุกวงการ ออกมาร่วมแสดงความจงรักภักดีและพลังแห่งความสามัคคีหลายแสนคน และได้สร้างแรงบันดาลใจให้มือใหม่หัดปั่น และคนที่ไม่เคยปั่นจักรยานไม่เคยขี่จักรยานมาก่อนเลยหันมาสนใจมากขึ้นนะครับ ธุรกิจด้านจักรยานก็ดีขึ้น การท่องเที่ยวต่างๆ ในชนบทต่างๆ ก็ดีขึ้นมีการปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นนะครับ ก็อยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันรักษากระแสการปั่นจักรยานและขี่จักรยานนี่ต่อไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเพื่อพบปะสังสรรค์ ร่วมกันนะครับ เป็นครอบครัว เป็นสังคมเล็กๆ ได้นะครับ ถ้าเป็นจักรยานมันมีโอกาสคุยกันยังไง ได้ยินเสียงกัน ขี่ไปคุยกันไป แต่ก็ต้องระวังรถนะ ให้ปลอดภัยแล้วกัน อย่าให้มีอุบัติเหตุนะครับ
 
ก็ขอให้เป็นจุดเริ่มต้น นะครับ แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจนะครับ ให้ทำต่อไปให้สม่ำเสมอ ใครที่ทำอยู่แล้วก็ให้ช่วยกันชักชวน เพื่อนฝูง พี่น้องมาเพิ่มสมาชิกให้มากขึ้น รัฐบาลเองอยากเห็นการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ต้องการให้มีการรณรงค์เรื่องความสำคัญของการออกกำลังกาย สำหรับการขยายถนนหรือจัดสรรให้มีเลนจักรยาน ก็เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสออกกำลังกายนะครับ ก็ต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย ก็ต้องช่วยกันกระตุ้นให้สังคมมีความเข้าใจถึงกฎระเบียบต่างๆ ผมเห็นคนขับรถบางครั้งนี่ ก็ไม่ค่อยเกรงใจนะ เห็นจักรยานมาก็บางที่ก็แกล้งกันบ้าง อะไรกันบ้าง มันไม่ใช่นะผมว่าต้องดูแลซึ่งกันและกันนะครับ การใช้ท้องถนนต้องใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะรถยนต์ จักรยานยนต์ หรือจักรยาน คนเดินถนน  เพราะทุกคนเป็นเจ้าของทั้งสิ้นนะครับ
 
ในส่วนของสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้นก็ทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการสาธารณสุขลงไป ในเรื่องของการรักษาพยาบาล ถ้าเราป้องกันตัวเอง รู้ตัวเอง ก็ไม่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดสุขภาพ มันย่ำแย่ไป หลายอย่างผมเตือนไปแล้ว เรื่องการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า อะไรต่างๆ เหล่านี้ ต้องลด ละ เลิกนะครับ เพื่อจะให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนะครับ
 
ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ วันนี้ก็ ประเทศเราค่อนข้างได้เปรียบนะครับ เรามีป่าเขา เรามีพื้นที่ชายทะเลเรามีชนบท มากมายนะครับ ที่พร้อมที่จะเป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะงั้นก็อยากจะให้เร่งเพิ่มนักท่องเที่ยว ไปยังตามจังหวัดต่างๆ ได้อีกด้วย วันนี้ก็เป็นสิ่งที่นิยมกันทั่วโลกนะครับ การปีนเขา การไต่เขา การเดินป่า อะไรเหล่านี้ ผมคิดว่าเราทำได้ทั้งหมด แต่ต้องให้ปลอดภัยแล้วกันนะครับ    ทั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็จะช่วยกันดำเนินการผลักดันนะครับ ทั้งเรื่องเส้นทางจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 13 เส้นทาง 13 จังหวัดของภาคกลาง เชื่อมโยงกันยังไง จะไปสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง นอกจากนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็จะสนับสนุนให้แต่ละจังหวัดขับเคลื่อนการพัฒนาเส้นทางจักรยานมากขึ้น ก็มีหลายจังหวัดทำไปแล้ว แต่ก็ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นนะครับ ก็อย่าให้มีเรื่องร้องเรียนอีกแล้วกัน ผมเห็นบางจังหวัดก็ถูกร้องเรียนมาแล้ว คงต้องตรวจสอยนะ ทำให้มันโปร่งใส นะครับ ตั้งใจดี แต่อย่าให้เสียหายแล้วกันนะครับ ทำอะไรก็ให้มันดีนะ ช่วงนี้ต้องเป็นอย่างนั้นนะครับ

เพราะงั้นในส่วนของการใช้ประโยชน์ถนนเส้นทางนี่ อย่างที่ผมเรียนแล้ว ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ช่วยกันดูแลกัน อย่าให้เกิดขึ้นมาอีกนะ เสียใจกันทั้งครอบครัว ทั้งประเทศชาติ กรณีถ้าเป็นชาวต่างประเทศด้วย มาเสียชีวิตในประเทศไทย จากการขี่จักรยานนี่ ต่อไปคงไม่ให้เกิดขึ้นนะครับ ต้องช่วยกัน
 
สุดท้ายนี้นะครับ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ จะจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 12 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิชาการ และขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ในทุกระดับนะครับ รวมถึงเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรด้านการแพทย์แผนไทยที่เรามีอยู่แล้วนะครับ งานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน นี้ ณ.ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและพัฒนา ที่จะทำให้ทรัพยากรสมุนไพรของไทยที่มีเป็นจำนวนมากนะครับ รวมความถึงภูมิปัญญาของไทย หมอแพทย์แผนไทย เหล่านี้ ไปสู่ตลาดสากลนะครับ ผมก็ขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศนะครับ ไปร่วมงานดังกล่าว เพื่อเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย และภูมิปัญญาท้องถิ่นของพี่น้องคนไทยกันเองด้วยครับ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง