เรียนผูกก็เรียนแก้เอง! จีนตอกกลับ หลังทรัมป์ส่งสัญญาณลดภาษี

วันนี้ (20 เม.ย.2568) CNN รายงานว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็น 2 มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ยังคงตึงเครียด เมื่อ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามส่งสัญญาณผ่อนปรนเพื่อลดความขัดแย้ง โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ตามเวลาสหรัฐฯ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ในทำเนียบขาวว่า เขาจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งปัจจุบันสูงถึงร้อยละ 145 ลง "อย่างมาก" พร้อมยังสัญญาว่าจะเจรจากับจีนด้วยท่าทีที่ "นุ่มนวลและเป็นมิตร" โดยจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นที่จีนไม่ชอบ เช่น ต้นกำเนิดของโควิด-19 ซึ่งเป็นหัวข้อที่เคยจุดชนวนความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ

ข่าวนี้สร้างความหวังให้กับนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในวอลล์สตรีท ที่กังวลว่าภาษีที่สูงเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังคำพูดของทรัมป์ แต่ความหวังนี้กลับพังทลายเมื่อจีนตอบโต้ด้วยท่าทีแข็งกร้าว

จีนสอนกลับ "เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง"

เหอ ย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเริ่มต้นการขึ้นภาษีฝ่ายเดียวตั้งแต่แรก และหากต้องการแก้ปัญหาจริง ต้องยกเลิกภาษีทั้งหมดที่กำหนดต่อสินค้าจีนเสียก่อน เขากล่าวว่า "ใครเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง" และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ฟังเสียงจากประชาคมโลกและผู้ประกอบการในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีนี้

พร้อมย้ำว่าการเจรจาต้องเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังปฏิเสธคำกล่าวของทรัมป์ที่อ้างว่า มีการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีน "ทุกวัน" โดยระบุว่า "เป็นข่าวปลอม" และยืนยันว่าไม่มีการปรึกษาหารือหรือเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับประเด็นภาษีเกิดขึ้นเลย

ผู้เชี่ยวชาญในจีนมองว่า การเปลี่ยนท่าทีของทรัมป์เป็นผลจากแรงกดดันภายในสหรัฐฯ หวัง อี้เว่ย ผู้อำนวยการสถาบันกิจการระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในปักกิ่ง อธิบายว่า ทรัมป์กำลังเผชิญปัญหาทั้งจากความผันผวนของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงร้อยละ 5 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อาจพุ่งสูงจากนโยบายภาษี

ทรัมป์ดูสับสน วันนี้พูดว่าจะลดภาษี แต่อาจเปลี่ยนใจเพิ่มภาษีวันพรุ่งนี้ก็ได้ ยังไม่สามารถไว้วางใจ

หวัง ยังชี้ว่า การที่ทรัมป์พูดถึงการลดภาษีเป็นเพียงการ "โยนหินถามทาง" เพื่อทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนในสหรัฐฯ รู้สึกสบายใจ โดยเฉพาะหลังจากเขาได้พบปะกับผู้บริหารจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เช่น วอลมาร์ต ทาร์เก็ต โฮม ดีโปต์ และ โลว์ส เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงความกังวลว่าภาษีที่สูงจะทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจสหรัฐฯ

หวู ซินโป ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาอเมริกา มหาวิทยาลัยฟูตัน ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า จีนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งกว่าและไม่รีบร้อนที่จะเจรจากับสหรัฐฯ การปล่อยให้สหรัฐฯ เผชิญผลกระทบจากภาษีก่อน จะทำให้จีนได้เปรียบในการเจรจา และอาจได้ข้อตกลงที่ดีกว่า หวูยังย้ำว่า จีนพร้อมรับมือแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และสามารถรอได้นานกว่าสหรัฐฯ ซึ่งกำลังเผชิญความวุ่นวายทั้งในและนอกประเทศ

โซเชียลจีนลุกเป็นไฟ "ทรัมป์ถอยแล้ว!"

ในโลกออนไลน์ของจีน ข้อเสนอของทรัมป์กลายเป็นเรื่องขบขัน แฮชแท็ก "ทรัมป์ถอยแล้ว" (Trump chickened out) กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงบนแพลตฟอร์มเวยป๋อ ดึงดูดยอดวิวกว่า 150 ล้านครั้งในวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับข่าวที่ว่าทรัมป์อาจลดภาษีลงเหลือร้อยละ 50-65 ก็ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน

ผู้ใช้โซเชียลจีนแสดงความภาคภูมิใจในจุดยืนแข็งกร้าวของรัฐบาล โดยโพสต์ข้อความ เช่น ถ้าภาษีตอบโต้ยังไม่ยกเลิก อย่ามาคุยด้วย! ซึ่งได้รับยอดไลก์กว่า 1,000 ครั้ง และอีกคนเขียนว่า เราไม่สน!

ความรู้สึกต่อต้านสหรัฐฯ ถูกจุดติดจากนโยบายภาษีของทรัมป์ และการเซ็นเซอร์ความเห็นที่วิจารณ์จุดยืนของรัฐบาลจีนยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของจีนที่แข็งแกร่งและไม่ยอมจำนน

อย่างไรก็ตาม เสียงจากผู้เชี่ยวชาญบางส่วนในจีน แสดงความกังวลถึงผลกระทบของภาษีร้อยละ 145 ต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่งกำลังชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศกล่าวกับ CNN ว่าทางการจีนไม่ได้พูดความจริงว่าเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังย่ำแย่ เขาชี้ว่าหากภาษีร้อยละ 145 ยังคงอยู่ การค้าต่างประเทศของจีนจะได้รับผลกระทบหนัก อาจนำไปสู่การว่างงานจำนวนมากและความไม่สงบในสังคม ซึ่งอาจกระทบต่อความชอบธรรมของรัฐบาล

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าภาษีสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจจีน แม้ว่าการส่งออกของจีนในเดือน มี.ค.จะเติบโตถึงร้อยละ 12.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่โมเมนตัมนี้ยากจะรักษาไว้ได้หากภาษียังคงสูง
ในเดือน เม.ย. สถาบันสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของรัฐบาล มีนักวิจัยโพสต์บนแอปพลิเคชัน Wechat ส่วนตัวว่า มาตรการตอบโต้ของจีนที่ขึ้นภาษีสหรัฐฯ ร้อยละ 125 เป็น "ความผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง"

การที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษี เหมือนยกหินมาทุบเท้าตัวเอง เราไม่ควรทำตามและทำร้ายตัวเอง

แต่โพสต์นี้ถูกเซ็นเซอร์อย่างรวดเร็ว หลังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ แสดงถึงการควบคุมข้อมูลที่เข้มงวดของจีน

อ่านข่าวอื่น :

ทรัมป์ถอย! ส่งสัญญาณลดภาษีจีน สงครามการค้าส่อผ่อนคลาย

ส่งออกมี.ค.ขยายตัว17.8% อานิสงส์ผู้นำเข้าตุนสต็อกหนี “ภาษีทรัมป์”