ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดงบฯ ซื้อยา รพ.ทหารผ่านศึก - ป.ป.ท.เร่งสรุปคดีเอาผิด จนท.รัฐ

อาชญากรรม
5 มี.ค. 68
19:41
249
Logo Thai PBS
เปิดงบฯ ซื้อยา รพ.ทหารผ่านศึก - ป.ป.ท.เร่งสรุปคดีเอาผิด จนท.รัฐ
เปิดงบประมาณจัดซื้อยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ย้อนหลัง 7 ปี ขณะที่ ป.ป.ท.เร่งสรุปคดีเอาผิด "จนท.รัฐ" ทุจริตเบิกยา ให้แล้วเสร็จในเดือน มี.ค.นี้

กรณีการทุจริตยาใน รพ.ทหารผ่านศึก นำไปสู่การตั้งคำถามเรื่องงบประมาณการจัดซื้อยา ซึ่งมีข้อมูลระบุว่า ตั้งแต่ปี 2560-2568 ค่าใช้จ่ายในโครงการจัดซื้อยาของ รพ.ทหารผ่านศึก สูงถึงร้อยละ 63 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 78 ของจำนวนโครงการทั้งหมดของโรงพยาบาล

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA เผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ ระบุว่า โครงการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ตั้งแต่เดือน ต.ค.2560 ถึงเดือน ม.ค.2568 งบประมาณโครงการจัดซื้อยากว่า 1,631 ล้านบาท ซึ่งราคาที่ตกลงตามสัญญาอยู่ที่ 1,551 ล้านบาท

ปีงบประมาณที่มีการจัดซื้อยามากที่สุด คือ ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 298 ล้านบาท, รองลงมาคือปี 2563 จำนวน 251 ล้านบาท, ส่วนปี 2566 จำนวน 241.1 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีโครงการจัดซื้อที่ระบุประเภทและชนิดของยา 9,668 โครงการ ใช้งบประมาณเกือบ 1,266 ล้านบาท ส่วนโครงการจัดซื้อที่ไม่ระบุประเภทและชนิดของยา จำนวน 4,142 โครงการ งบประมาณ 375 ล้านบาท

ส่วนบริษัทผู้รับสัญญาในโครงการจัดซื้อยา ที่มีวงเงินงบประมาณสูงสุด คือ ซิลลิค ฟาร์มา วงเงินกว่า 669 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.04 ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด หรือจำนวน 2,571 โครงการ รองลงมาคือบริษัท ดีเคเอชเอช (ประเทศไทย) ได้วงเงินกว่า 500 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.25 ของวงเงินงบประมาณ จำนวนเกือบ 2,600 โครงการ ทั้ง 2 บริษัท ค่อนข้างห่างจากอันดับ 3 คือ บริษัท เมดติจูด จำกัด ได้ไป 37ล้านบาท ขณะที่การจัดซื้อยาผ่านองค์การเภสัชกรรม ใช้งบประมาณ 3.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.23 ของวงเงินงบประมาณ

เมื่อเจาะข้อมูลเฉพาะปี 2560-2567 โครงการจัดซื้อยา ตั้งวงเงินงบประมาณไว้รวม 1,606 ล้านบาท หรือ 13,668 โครงการ ได้ราคาที่ตกลงตามสัญญาที่ 1,525 ล้านบาทเศษ ราคาแตกต่างกันประมาณ 80 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.0 เท่านั้น

ทั้งนี้ จึงมีข้อสังเกตว่าค่าใช้จ่ายในโครงการจัดซื้อยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก คิดเป็นร้อยละ 63.25 ของวงเงินงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด จำนวน 13,668 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 78.7 ของจำนวนโครงการทั้งหมด

ป.ป.ท.เร่งสรุปคดีเอาผิด "จนท.รัฐ" ทุจริตเบิกยา

ขณะที่นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ระบุว่า ปปท. กำลังเร่งไต่สวนข้อเท็จจริง คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ หลังพบหลักฐานผู้กระทำผิด มียศระดับพลเอก ร่วมขบวนการ แต่ไม่มีผลต่อการดำเนินคดี

ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ ป.ป.ท. ได้รับนโยบายจากรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง หารือกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อปรับปรุงระบบติดตามตรวจสอบการใช้สิทธิรักษาพยาบาล และเบิกจ่ายยา ของข้าราชการและครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยคดีนี้ คาดว่าจะบังคับใช้ได้ภายในปีงบประมาณนี้

นอกจากนี้ เลขาธิการ ป.ป.ท. ยังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับผู้ตรวจเงินแผ่นดิน และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. กล่าวว่า เอ็มโอยูนี้จะช่วยลดข้อจำกัดเกี่ยวกับอำนาจตรวจสอบ เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบการทุจริตเชิงนโยบายจากการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ จึงกำหนดให้หน่วยงานราชการ ต้องจัดทำรายงานประเมินความเสี่ยงการทุจริต พร้อมกับแนวทางป้องกันแนบพร้อมกับคำขอรับการจัดสรรงบประมาณ สำหรับโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป

หากส่วนราชการประวิงเวลา หรือเพิกเฉยต่อการจัดทำรายงานประเมินความเสี่ยงการทุจริต สำนักงบประมาณสามารถตัดงบประมาณสำหรับโครงการดังกล่าวได้

ด้านนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. ยอมรับว่าปัญหาการใช้งบประมาณภาครัฐ เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโปร่งใสมาโดยตลอด จึงเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสกัดกั้นและป้องปรามการทุจริตภาครัฐ ส่งผลให้ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยดีขึ้น จากปัจจุบันองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ รายงานว่าไทยได้รับคะแนนรับรู้การทุจริต หรือซีพีไอ 35 คะแนน อยู่ในลำดับ 101 จาก 180 ประเทศ

อ่านข่าว : กรมบัญชีกลางจ่อฟ้องร่วมเรียกค่าเสียหาย "ทุจริตยา" 

รพ.ทหารผ่านศึก แจ้งความขบวนการทุจริตรับยา พบ ขรก.ระดับสูงเอี่ยว 

เตรียมแจ้งความปมทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ผลสอบพบมีมูล 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง