ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กคพ.เลื่อนลงมติรับฮั้วเลือกตั้ง สว.เป็นคดีพิเศษเป็น 6 มี.ค.นี้

การเมือง
25 ก.พ. 68
16:43
1,746
Logo Thai PBS
กคพ.เลื่อนลงมติรับฮั้วเลือกตั้ง สว.เป็นคดีพิเศษเป็น 6 มี.ค.นี้
อ่านให้ฟัง
05:28อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ด่วน! คณะกรรมการคดีพิเศษ เสนอเลื่อนพิจารณารับคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. เป็นคดีพิเศษ โดยให้เหตุผลขอให้เชิญ กกต.มาชี้แจงก่อน

วันนี้ (25 ก.พ.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณาการฮั้ว การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 ในฐานะประธาน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นกรรมการและเลขานุการ

นายภูมิธรรม กล่าวว่าประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง หากมีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นว่ามีปัญหา ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการรับเป็นคดีพิเศษได้ แต่หากพยานหลักฐานไม่ชัดก็ต้องพิจารณาไปตามเนื้อผ้า โดยเหตุผลที่ยอมให้บรรจุเป็นวาระในการพิจารณาครั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐาน จึงต้องแสดงให้ทุกคนที่เป็นกรรมการได้รู้ หากเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดก็จะพิจารณาไปตามความเหมาะสม

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แจ้งว่ามีกรรมการมาประชุมทั้งหมด 19 คน จาก 22 คน โดยขาดกรรมการโดยตำแหน่ง 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน

การประชุมเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. รายงานก่อนประชุมพบว่า คณะกรรมการที่เข้าประชุมมีทั้งหมด 19 คนจาก 22 คน โดยมีรายงานว่าคนที่ยังไม่มาเข้าร่วมประชุม คือ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตัวแทน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กรรมการโดยตำแหน่ง, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และพล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการสอบสวนคดีอาญา

อ่านข่าว : ไทม์ไลน์คดีฮั้วเลือก สว.-ชี้ชะตา 138 คน

สำหรับการประชุมครั้งนี้มี 2 วาระคือ เรื่องการฮั้ว การคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา และเรื่องการทุจริตสวมสิทธิ์ยางพาราไทย เพื่อขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมในการรับดำเนินการไว้เป็นคดีพิเศษ ร่วมถึงการแจ้งความคืบหน้าในคดีสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษเช่น คดีหมอบุญ คดีสตาร์ค และคดีดิไอคอน ภาค 2 ก็ถูกนำเข้ามารายงานในที่ประชุมด้วยเช่นกัน

แต่วาระสำคัญที่ได้รับความสนใจจากสังคมคือการพิจารณารับเรื่อง ฮั้ว สว. ในการเลือกตั้งปี 2567 ว่าจะรับเรื่องเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ส่วนการพิจารเป็นคดีพิเศษของคณะกรรมการคดีพิเศษต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หรือ 15 คนจาก 22 คน ซึ่งภายหลังการประชุมจะมีแถลงสรุปผลการพิจารณาให้ทราบโดยทันที

อ่านข่าว : "ทวี" กังวลความปลอดภัย พยานคดีฮั้ว สว.

นักวิชาการและหลายภาคส่วนมองว่า มีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการคดีพิเศษจะรับเรื่องฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ เพราะว่าก่อนหน้านี้ท่าทีของดีเอสไอมีทิศทางในการรับคดีไปสืบสวน และมีการยื่นหนังสือด่วนส่งถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องแจ้งความคืบหน้าผลการสืบสวนและขอความเห็นการดำเนินคดี หลังพบหลักฐานทั้งโพยฮั้ว สว. 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน พบว่าเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว.138 คน และอยู่ในลำดับสำรอง 2 คน ซึ่งเชื่อได้ว่ามีขบวนการดังกล่าวจริง

เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2563 มาตรา 977 (3) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) และความผิดฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ดีเอสไอ จึงประสงค์ที่จะรับดำเนินการสอบสวนในส่วนที่พบการกระทำผิดทางอาญาไว้ดำเนินการ

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.มีรายงานว่าผลการพิจารณาในการรับเรื่อง การฮั้วการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 เป็นคดีพิเศษนั้น มติในที่ประชุมได้มีความเห็นว่า เลื่อนลงมติไปเป็นวันที่ 6 มี.ค.2568 โดยให้เหตุผลว่าต้องเชิญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เข้ามาชี้แจง ส่วนรายละเอียดจะมีแถลงผลภายหลังการประชุม

กคพ.เลื่อนพิจารณาเรื่อง ฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ เชิญ กกต.ให้ข้อมูลเพิ่ม

นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง , พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ร่วมแถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณาเรื่อง การฮั้ว เลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 เป็นคดีพิเศษ ภายหลังใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

นายภูมิธรรม เปิดเผยหลังการประชุมว่า มติในคณะกรรมการการประชุมพิเศษในวันนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 6 มี.ค.พร้อมให้เหตุผลว่าภายหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้รับเรื่องจากผู้ร้องเรียน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ก่อนที่ทาง กกต.จะส่งหนังสือกลับมายังดีเอสไอให้ดำเนินการสืบสวนซึ่งการประสานงานดังกล่าว เป็นการประสานงาน ระหว่างหน่วยงานในระดับเลขานุการ ไม่ได้ผ่านอนุกรรมการคัดกรองของดีเอสไอ จึงถือว่าเอกสารยังดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ทำให้ต้องกลับไปดำเนินการให้ถูกต้อง

รวมถึงยังต้องเชิญ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เข้ามาให้ข้อมูลกับทางคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 5 มี.ค. ก่อนที่จะมีการพิจารณาในการรับเป็นคดีพิเศษอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค.เพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้แย้ง และให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะต้องกลับไปตรวจสอบให้ชัดเจนและโปร่งใสครบถ้วน ซึ่งในวันที่มีการพิจารณาจะมีตัวแทนของ กกต.เข้าที่ประชุมพิจารณาคดีพิเศษด้วย

ส่วนข้อมูลทางคดีที่จะเข้ามาพิจารณารับเป็นคดีพิเศษนั้นที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการสืบสวนและขยายผล นอกเหนือจากพยานหลักหลักฐานที่ได้มาเบื้องต้น

การดำเนินคดีทางอาญา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจเต็มที่ แต่ในส่วนของกฎหมายการเลือกตั้ง เป็นอำนาจของทาง กกต.ที่ต้องดำเนินการ แต่หากพูดคุยกันแล้ว กกต.ไม่ดำเนินการ ทางดีเอสไอ ก็มีอำนาจที่จะดำเนินคดีกฎหมายการเลือกตั้งควบคู่กับคดีอาญาไปด้วยได้ แต่ยังคงต้องมีการพูดคุยระวังหน่วยงานให้ชัดเจน

ส่วนกรณีที่สังคมตั้งประเด็นว่าเรื่องดังกล่าวมาจากประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง นายภูมิธรรม ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะหากพบว่าคนในรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาลกระทำความผิด หรือมีแนวโน้ม หรือต้องสงสัยก็ต้องว่าไปตามขบวนการ ยืนยันว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้มุ่งเน้นไปเพื่อแก้แค้นใคร และไม่กดดันในการทำหน้าที่ เพราะหากไม่ดำเนินการตรวจสอบก็จะมีความผิดด้วยเช่นกัน

ส่วนท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ที่ออกมาตอบโต้ฝั่งของดีเอสไอว่าไม่มีอำนาจ หน้าที่ในการดำเนินการเรื่องนี้นั้น นายภูมิธรรม ยืนยันว่าตัวเองไม่รู้สึกกดดัน และดำเนินการสอบสวน ตามข้อกฎหมาย ส่วนใครจะกระทำความผิดหรือไม่ให้เป็นดุลยพินิจของศาล แต่การพิจารณาต้องดำเนินการต่อเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันนิติบัญญัติ ที่เป็นสถาบันหลักของชาติ และเป็นที่สนใจของประชาชน จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยไม่ใช้อำนาจบริหารในการแทรกแซง

อ่านข่าว :

ชิงสอย สว.สีน้ำเงิน เกมบีบวุฒิฯ เปลี่ยนสี

"ณัฐพงษ์ " หวัง "ดีเอสไอ" รับพิจารณาคดีฮั้ว สว.

ศาลสั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน-ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง