เลือก สว.ปี 2567 เป็นที่รับรู้ว่า มีปมปัญหามากมาย โดยเฉพาะการจัดตั้งและล็อคโหวต สำหรับผู้สมัครที่อยู่ในเครือข่าย ทำให้มีเรื่องร้องไปยังกกต.นับร้อยคำร้อง แต่กกต.เลือกที่จะรับรอง สว.200 คนไปก่อน ทำให้มีผู้สมัครที่ไม่ติด 200 รายชื่อ ยื่นร้องไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ
ถึงวันนี้ หลังรับรอง สว. 200 คน เมื่อ 10 ก.ค.2567 ผ่านไป 7 เดือนกว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้าจากกกต. จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ทำให้ สว.เสียงส่วนน้อยที่ได้รับเลือก และ สว.สำรอง เคลื่อนไหวแสดงท่าทีสนับสนุนให้ดีเอสไอรับคดีฮั้วเลือก สว.ไปทำแทน
หลังจากดีเอสไอ ได้มีการสืบสวนเบื้องต้นตามคำร้อง และทำเป็นบันทึกส่งให้ กกต.แล้ว ระบุพบหลักฐานการฮั้วเลือก สว. อย่างเป็นขบวนการ อาทิ พบโพยฮั้ว 2 ชุด มีรายชื่อตรงกับผู้ได้รับเลือกเป็น สว.138 คน และอีก 2 คนเป็นชื่อสำรอง พบมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับอำเภอ มีผู้สมัครอยู่ในขบวนการประมาณ 1,200 คน
เมื่อผ่านการเลือกระดับจังหวัด ได้นัดหมายผู้สมัคร สว.ที่ผ่านสู่ระดับประเทศ ไปจัดทำโพยฮั้วใน 3 จังหวัด คือ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครนายก วันที่ 24 มิ.ย.2567 มีเปิดโรงแรม มีแจกเสื้อแจ๊คเก็ตสีเหลือง รวมทั้งจัดรถรับส่งไปที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ในวันเลือกระดับประเทศ 26 มิ.ย.2567
เป็นเหตุให้ สว.ต้องตั้งโต๊ะแถลงด่วนระหว่างไปสัมมนาริมทะเลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ้างอำนาจการสืบสวนตรวจสอบการเลือกตั้ง เป็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ตามรัฐธรรมนูญ และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบอยู่ และซัดกลับว่า หากดีเอสไอเข้ามาทำเรื่องนี้แทน เท่ากับเป็นเรื่องการเมือง และรับไม่ได้ กับข้อกล่าวหาเป็นอั้งยี่
ทั้งยังตอบโต้กลับ เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งความเอาผิดผู้กล่าวหา ฐานทำให้วุฒิสภาเสียหาย ให้กรรมาธิการของวุฒิสภา เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงถึงที่มาของข้อกล่าวหาเรื่องอั้งยี่ และจะยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปฝ่ายบริหาร ปมการทำหน้าที่ของดีเอสไอ รวมทั้ง จะเข้าชื่อถอดถอนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป้าหมายน่าจะเป็น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ
จากนั้นเกิดความชุลมุนและออกโรงตอบโต้กันไปมา ไม่เฉพาะ สว.เสียงข้างมากกับ สว.พันธุ์ใหม่ ที่เป็นเสียงข้างน้อย แต่ยังมีฝ่ายการเมืองและกองหนุนของทั้ง 2 ฝ่ายตลอดนานกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ทวี แสดงท่าทีสนับสนุนให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้ไปทำเต็มที่ ระบุมีอำนาจรับทำคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษได้ เพราะเป็นหน้าที่ มีคนมาร้อง ไม่ต้องรอ “กกต.” เพราะถือกฎหมายคนละฉบับ
ขณะที่ สส.และแกนนำจากพรรคเพื่อไทยหลายคน ออกโรงหนุนให้ดีเอสไอรับทำคดีนี้ ด้วยเหตุผลสำคัญ คือหากเชื่อว่าตนบริสุทธิ์ ไม่เป็นไปตามที่ถูกกล่าวจริง ก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ
สอดคล้องกับอดีต สว. อย่างนายสมชาย แสวงการ ที่เคยออกโรงแฉทั้งข้อมูลทั้งโพยรายชื่อว่าที่สว. ตั้งแต่ก่อนจะมีการเลือกระดับประเทศด้วยซ้ำ และตอนนี้ยังคงพร้อมจะไปเป็นพยาน และมั่นใจว่าสามารถใช้ติดตาม “เส้นเงิน” และคน ในขบวนการจัดฮั้วเลือก สว.ได้
ตรงข้ามกับพรรคภูมิใจไทย นำโดยนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกรัฐบาล และเป็นมือกฎหมายของพรรค ที่เห็นว่า เจตนาการตั้งดีเอสไอ เพื่อทำคดีอาญาที่มีความสลับซับซ้อนมากกว่าคดีอาญาทั่วไป แต่ไม่ควรรวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้เฉพาะ และรัฐมนตรียุติธรรม พ.ต.อ.ทวี ส่อเข้าข่ายใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ สว.อย่างนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ไม่เห็นด้วยที่ สว.จะตอบโต้ถึงขั้นล่าชื่อถอดถอน รมว.ยุติธรรม เพราะจะเท่ากับไม่ต้องการให้มีการตรวจสอบ และอาจถูกมองว่า เป็นการแก้แค้น ซึ่งดูจะสอดคล้องกับกระแสความไม่พอใจ สว. กรณีไม่สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย จนต้องแช่แข็งอยู่ในสภาขณะนี้
แต่สำหรับทัศนะของนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นอกจากตั้งคำถาม เลือก สว.มาร่วมปี แทนที่จะยื่นฟ้องต่อ กกต. กลับจะยื่นฟ้องต่อดีเอสไอแล้ว ยังทะลุกลางปล้อง เฉลยคำถามทำไมต้องมาทุบ สว.ในช่วงนี้ว่า
เนื่องจากองค์กรอิสระหลายแห่ง ต้องมีการสรรหาคนใหม่แทนคนเก่าที่จะหมดวาระ ซึ่งเป็นอำนาจของ สว. หากปล่อยให้ สว.ชุดนี้ ที่มีเสียงบ่นว่า เป็น สว.สีน้ำเงิน คนที่ได้รับการสรรหาจะไม่เป็นคุณ อย่ากระนั้นเลย ทุบมันเสียเลยดีมั้ย
ไปตรงกับกระแสข่าววงใน ที่เล็ดลอดออกมาก่อนหน้านี้ว่า บางพรรคที่กำลังมีอำนาจ แต่ไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะมีพรรคร่วมคอยขัดแข้งขัดขา เดินหน้าต่อลำบาก จึงมีดำริอยากจะเปลี่ยน สว.จากที่ถูกมองว่าเป็นสีเสื้อน้ำเงิน ไปเป็นอีกสีเสื้อหนึ่ง เพื่อให้สมการการเมืองและอำนาจต่อรองเปลี่ยนแปลงไป ช่างเป็นประเด็นที่กูรูการเมืองและนักวิชาการหลายคน ได้วิพากษ์และตั้งข้อสังเกตไว้
เท็จจริงอย่างไรให้ติดตามกันต่อ เพราะนอกจาก กมธ.กิจการวุฒิสภา จะมีมติยืนตามความเห็นเดิมตามการแถลงของ สว.ที่หัวหินแล้ว แต่บอร์ดดีเอสไอ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธาน จะประชุมเคาะว่า ดีเอสไอจะรับคดีนี้ไปทำหรือไม่ ในวันอังคารที่ 25 ก.พ.ซึ่งก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากจุดยืนเดิม
การชิงสีเสื้อ สว.ยกแรกจึงกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : “พระราชินี” ทรงร่วมวิ่ง “Run for Wheels วิ่งเพื่อให้หมาได้วิ่ง ครั้งที่ 4”
"เพื่อลูก ๆ สตรีศรีฯ" ผอ.พีซทำได้! สวมชุดนักเรียนร้องเพลงสุดปัง