วันนี้ (18 ก.พ.2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ถึงราคาข้าวนาปรังที่ตกต่ำในขณะนี้ว่ากระทรวงพาณิชย์มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยสั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.) ในวันที่ 20 ก.พ.2568 เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกที่ลดลงจากการกลับมาส่งออกของอินเดียหลังหยุดไป 2 ปี รวมถึงแนวโน้มการนำเข้าที่ลดลงจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
โดยได้ออก 7 มาตรการเร่งด่วน ประกอบด้วย 1.เร่งประชุม อนุ นบข. ในวันที่ 20 ก.พ. เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ก่อนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณา
2.เปิดตลาดนัดข้าวเปลือกใน 20 จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น คาดว่าราคาข้าวเปลือกจะเพิ่มขึ้น 100-200 บาทต่อตัน โดยเริ่มที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ. และจะจัดอีก 14 ครั้งจนถึงเม.ย.2568
3.ขยายตลาดส่งออก โดยเตรียมเดินทางไปแอฟริกาใต้ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ส่งออกข้าว 300,000 ตัน มูลค่ากว่า 5,250 ล้านบาท เพื่อเพิ่มอุปสงค์ในตลาดโลก

4.ผลักดันการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) กับจีน อีก 280,000 ตัน เพื่อลดอุปทานข้าวส่วนเกินในประเทศ
5.สนับสนุนสินเชื่อพิเศษ โดยหารือกับ EXIM BANK เพื่อให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าว ช่วยให้สามารถรับซื้อและสต๊อกข้าวจากเกษตรกรได้มากขึ้น
6.จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดข้าวไทยในเวทีสากล ผ่านงานประชุม Thailand Rice Convention (TRC) เชิญผู้นำเข้าข้าวทั่วโลกมาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและเจรจาธุรกิจ
7.ขยายตลาดส่งออกระยะยาว โดยมุ่งเปิดตลาดใหม่ในสหรัฐฯ ยุโรป และฟิลิปปินส์ พร้อมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทย

นายพิชัยกล่าวอีกว่า ราคาข้าวที่ลดลงเป็นผลจากปัจจัยภายนอก ทั้งการกลับมาส่งออกของอินเดีย และแนวโน้มการนำเข้าที่ลดลงจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งกระทรวงฯกำลังเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือ โดยเดือนมี.ค.จะเดินทางไปแอฟริกาใต้เพื่อเปิดตลาดใหม่ เชื่อว่าหากผลักดันมาตรการทั้งหมดนี้ได้สำเร็จ ราคาข้าวจะปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 ก.พ. นี้ ชาวนาทั่วประเทศเตรียมเดินทางเข้าทำเนียบเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาข้าวราคาตกต่ำในขณะที่เป็นการเร่งด่วนเพราะชาวนาได้รับความเดือนร้อนอย่างมาก
ด้านนางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมในแผนงานส่งเสริมตลาดข้าวไทย กรมฯ จะจัดคณะผู้แทนเดินทางไปจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้า FOODEX JAPAN 2025 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 14 มี.ค.ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่เก่าแก่ที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่น จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 50 และถือเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่ายสินค้าจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมงานกว่า 80,000 คน
ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในฐานะพันธมิตรที่สำคัญต่อการค้าข้าวของไทย โดยญี่ปุ่นอยู่ใน 10 อันดับแรกของตลาดส่งออกข้าวไทยมาโดยตลอด ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นเฉลี่ยประมาณ 300,000 ตัน ครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในญี่ปุ่นกว่า 43%

แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาผลผลิตข้าวของญี่ปุ่นมีปริมาณลดลงจากภาวะภัยแล้งส่งผลให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคและสำหรับนักท่องเที่ยว และประสบปัญหาข้าวราคาสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน ประกอบกับประชาชนแห่กักตุนข้าวเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติแผ่นดินไหว
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีแผนนำข้าวสำรองฉุกเฉินของรัฐบาลมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อแก้ปัญหาข้าวราคาแพงและลดความกังวลเกี่ยวกับปริมาณข้าวในตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ

โดยราคาข้าวเฉลี่ยในญี่ปุ่น อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 2.65 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น การเข้าร่วมงาน FOODEX JAPAN 2025 จึงเป็นโอกาสสำคัญในการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และกระตุ้นความต้องการข้าวไทยในตลาดญี่ปุ่น ประกอบกับผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
ดังนั้น การนำเสนอข้าวคุณภาพดีของไทย เช่น ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวคุณลักษณะพิเศษต่างๆ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าว กข43 ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายผ่านกลุ่มผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าดังกล่าวจะช่วยขยายตลาดข้าวไทยให้เข้าสู่กลุ่มผู้ค้าและผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมากขึ้น รวมทั้งช่วยผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปญี่ปุ่นให้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
อ่านข่าว:
ชาวนาทั่ว ปท.จ่อบุกทำเนียบ 20 ก.พ.ร้องราคาข้าวตกหนัก