ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จีนเปิด AI ตัวใหม่ "DeepSeek" เขย่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ต่างประเทศ
28 ม.ค. 68
06:25
4,219
Logo Thai PBS
จีนเปิด AI ตัวใหม่ "DeepSeek" เขย่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ
อ่านให้ฟัง
04:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
บริษัทสัญชาติจีนแห่งหนึ่ง เปิดตัวระบบ AI ตัวใหม่ "DeepSeek" อ้างใช้ต้นทุนพัฒนาที่ต่ำกว่าบริษัทอื่น ๆ สะเทือนทั้งแวดวงการลงทุนและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ล่าสุดขึ้นแท่นแอปฯ ฟรี ที่มียอดดาวน์โหลดอันดับ 1 ในสหรัฐฯ แซงหน้าแอปฯ เอไอคู่แข่งอย่าง ChatGPT

บริษัทสัญชาติจีนแห่งหนึ่ง พัฒนาระบบ AI ตัวใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ชื่อ "DeepSeek" ยอดดาวน์โหลดขึ้นแท่นแซงหน้าแอปพลิเคชันอื่น ๆ และล่าสุดตลาดทุนสหรัฐฯ ผันผวนครั้งใหญ่จากสภาวะที่เกิดขึ้นตามมาจากข่าวนี้

แอปฯ DeepSeek ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ DeepSeek-V3 แบบโอเพนซอร์ส ลักษณะการใช้งานเป็นแชตบอท หน้าตาคล้าย ChatGPT, Gemini และอีกหลายแชตบอทเอไอที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ ใช้ซักถาม ตอบปัญหา หรือช่วยสร้างสรรค์เรียบเรียงข้อมูลต่าง ๆ

แต่นักวิจัยของบริษัท อ้างว่า ใช้งบประมาณในการฝึกฝนประมาณ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขนี้ต่ำกว่างบประมาณที่บรรดาคู่แข่งใช้พัฒนาระบบเอไออย่างมาก ที่ตามปกติแล้วมีรายงานการใช้งบประมาณสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโมเดล แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่งบประมาณการพัฒนาจะต่ำได้ขนาดนั้นก็ตาม

DeepSeek เป็นสตาร์ทอัพขนาดเล็กในเมืองหางโจว ที่ก่อตั้งในปี 2023 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ไป่ตู้ (Baidu) ยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องมือสืบค้นข้อมูลของจีนเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ตัวแรกของประเทศจีน

ความสนใจของผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เมื่อวานนี้ (27 ม.ค.2568) มีรายงานว่า ระบบ DeepSeek ประสบปัญหาเว็บไซต์ล่มชั่วคราว ตามรายงานจากทางบริษัท การล่มที่เกิดขึ้นเป็นการล่มที่ต่อเนื่องนานที่สุดในรอบ 90 วัน และเกิดขึ้นพร้อมกับความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกระเพื่อมที่ DeepSeek กำลังสร้างขึ้นในแวดวงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่เชื่อมั่นกันมาอย่างยาวนาน ถึงความเป็นผู้นำด้านเอไอ

กระแส DeepSeek ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทเอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าตลาดลดฮวบไปกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 18% ในการซื้อขายครึ่งวันแรก เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่างบรอดคอม

นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่น ๆ ทั้งไมโครซอฟต์ อัลฟาเบท และเมตา ยังปรับตัวร่วงไปตาม ๆ กัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลและขาดความเชื่อมั่น ทั้งที่สหรัฐฯ พยายามกีดกันการส่งออกเทคโนโลยีชิปล้ำสมัยสำหรับใช้พัฒนาระบบเอไอไปยังจีน ซึ่งดูเหมือนจะกลับกลายเป็นว่า เป็นการบีบให้นักวิจัยเอไอจากจีนหันไปพึ่งพากันและกัน และทดลองสรรหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาเอไอ จนท้ายที่สุดได้ผลลัพธ์เป็นเอไอที่ใช้ขีคความสามารถในการประมวลผลต่ำกว่าที่เคย และยังอาจทำให้ต้นทุนการพัฒนาต่ำลง ซึ่งจะกลายเป็นการเข้ามาเปลี่ยนแปลงแวดวงนี้ได้อีกด้วย

อ่านข่าว : สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนอากาศหนาวเย็น-ลมแรง อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ 

ชัด! DNA "นกเป็ดน้ำ" ผลสอบเบื้องต้นโศกนาฏกรรม "เจจู แอร์" 

กลับสู่แผ่นดินเกิด ชาวปาเลสไตน์กลับบ้านในรอบ 15 เดือน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง