วันนี้ (25 ม.ค.2568) ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่าภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกทม.-ปริมณฑล หลายพื้นที่อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) พื้นที่ภาคกลาง ตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สถานการณ์โดยรวมเกินเกณฑ์มาตรฐานหลายจังหวัด ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 14.1–91 มค.ก.มคก.ต่อลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 39.8-87 มคก.ต่อลบ.ม. ภาคกลาง และตะวันตก 32.5-106.9 มคก.ต่อลบ.ม.ภาคตะวันออก 46.3-94.9 มคก.ต่อลบ.ม. ภาคใต้ 9.3-44.2 มคก.ต่อลบ.ม. กทม.-ปริมณฑล 50.9-111 มคก.ต่อลบ.ม.
คาดการณ์หลัง 27 ม.ค.แนวโน้มดี
ศกพ.คาดการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่างวันที่ 25-27 ม.ค.นี้ ยังคงมีแนวโน้มเกินเกณฑ์มาตรฐานหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่กทม.-ปริมณฑล และพื้นที่อื่นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตะวันตก
สถานการณ์จะบรรเทาลงอย่างมีนัยสำคัญหลังวันที่ 27 ม.ค.นี้ เนื่องจากอัตราการระบายอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น ลมที่ค่อนข้างแรง และสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการระบายฝุ่นละอองมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยทางด้านอุตุนิยมวิทยา ยังคงส่งผลต่อการระบายของฝุ่นละออง อิทธิพลของมวลอากาศเย็นที่ยังคงปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้อากาศนิ่งและจมตัว ร่วมกับการพบค่าอัตราการระบายอากาศที่ต่ำ การเกิดสภาพอุณหภูมิผกผันใกล้ผิวพื้นส่งผลให้ฝุ่นละอองไม่สามารถระบายออกจากพื้นที่ได้ จึงมีการสะสมและแขวนลอยในชั้นบรรยากาศมาก
ข้อมูลจาก GISTDA พบเจอจุดความร้อนในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง วันที่ 24 ม.ค.นี้พบจุดความร้อนทั้งสิ้น 420 จุด จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกท่าน งดการเผาทุกชนิด ทั้งการเผาในพื้นที่เกษตร เผาขยะ เผาริมทาง
เจ้าหน้าที่ควบคุมการเผาพื้นที่ป่าอนุรักษ์
เปิดโทษเผาไร่อ้อยจำคุก 7 ปีปรับ 14,000 บาท
ส่วนกรณีที่โซเชียลมีเดีย มีการแชร์ภาพผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเซลฟี่ตัวเองและเพื่อน ๆ กำลังจุดไฟเผาอ้อย โดยในภาพเผยให้เห็นเปลวเพลิงมหาศาลกำลังลุกไหม้ พร้อมระบุข้อความว่า
วันนี้จุดใบอ้อย เตรียมตัวลงไร่ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ไปช่วยดันไฟ
ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์จำนวนมากเนื่องจากการเผาไร่อ้อยเป็นหนึ่งในต้นตอการเกิดฝุ่นPM2.5 เป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลรณรงค์และขอให้เกษตรกรงดการผาพื้นที่เกษตรกรรม
ลูกสาวผู้โพสต์ ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า แม่หนูเอง แกไม่รู้กฎหมายหรืออะไร ขอโทษแทนคุณแม่ แล้วจะอธิบายให้แกเข้าใจ โพสต์แม่หนูเป็นคนลบเอง
ยินดีรับผิด เป็นบทเรียน แล้วจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ขอโทษทุกคนด้วย เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก ๆ ขอโทษแทนคุณแม่
สำหรับการการเผาอ้อยเป็นการทำผิด มาตรา 25 วรรค 4 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุขพ.ศ.2535 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ส่งหนังสือกำชับและขอความร่วมมือไปยังสมาคมชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล ให้ปฏิบัติตามมาตรการแนวทางแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับเงินที่หักจากค่าอ้อยไฟไหม้ อ้อยยอดยาว และอ้อยที่มีกาบใบ พ.ศ. 2561
โดยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ไม่ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยด้วยวิธีการเผาไร่อ้อยก่อนตัดส่งเข้าโรงงานน้ำตาล ซึ่งอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคแรก ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท และมาตรา 25 วรรคสี่ แห่งพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 การกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
หลายพื้นที่ยังลอบเผาพื้นที่ไร่อ้อย-พท.เกษตร
ขณะที่หลายจุดยังคงพบเกษตรกรฝ่าฝืนเผาพื้นที่เกษตร ตอซังข้าวไร่ข้าวโพดไร่อ้อย เช่น พื้นที่นครสวรรค์ ลพบุรี โดยเพจ Drama-addict ระบุว่า ตรงข้าม ปตท แม่สรวยอ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นหลายจุด
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ มีเหตุการณ์ไฟไหม้ไร่อ้อย บริเวณรอยต่อระหว่างอ. หนองบัว แดง และอ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ โดยอาสามัครเฝ้าระวังการลักลอบเผาป่าและที่โล่งแจ้ง บันทึกภาพไว้ได้ เปลวไฟพวยพุ่ง และลุกลามเป็นวงกว้าง มองเห็นได้ในระยะ 4-5 กิโลเมตร และที่น่าสังเกตคือเปลวไฟกระจายอยู่ตามไร่อ้อย ทั้งที่ตัดแล้ว และอยู่ระหว่างการตัด
อาสาสมัครที่บันทึกภาพนี้ ระบุว่า ปัญหาการจุดไฟเผาป่าและพื้นที่โล่งแจ้งมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเผาไร่อ้อย มักจะลงมือจุดไฟเผา ช่วงกลางคืน สาเหตุที่เกษตรกรนิยมเผาอ้อยก่อนตัดขาย เพราะการตัดอ้อยสดจะเสียเวลามากกว่าอ้อยเผา จึงกลัวว่าจะส่งขายไม่ทันเวลา
ตำรวจออก 4 มาตรการดำเนินคดีเข้มลด PM 2.5
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการตำรวจทุกหน่วยเพิ่มมาตรการเข้ม ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดสาเหตุการก่อฝุ่นละลองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน
- รถ ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่นำรถยนต์ที่มีลักษณะปล่อยมลพิษควันดำมาใช้บนท้องถนน ออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษเกินกว่ามาตรฐาน
- โรงงาน ก่อสร้าง ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการโรงงานที่มีลักษณะปล่อยมลพิษทางอากาศ และการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ไร่ นา ป่า สวน ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาป่า พืชไร่ และพื้นที่เพาะปลูกเพื่อทำการเกษตร เผาในที่โล่ง และกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- ร่วมมือ-บูรณาการกับกรมการขนส่งทางบก หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งรัฐ เอกชนในการสนับสนุนการดำเนินการทั้งด้านเครื่องมืออุปกรณ์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดพบเบาะแสก่อฝุ่นพิษ โทร.1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
ไฟป่าเขาภูลำไย ยังขยายวง-ดับไม่ได้
ส่วนสถานการณ์ไฟป่าเขาภูลำไย เขตรอยต่อระหว่าง อ.ครบุรี และอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 2 ใช้เป็นสนามฝึกทางยุทธวิธี พบว่ายังคงมีไฟลุกไหม้ตลอดแนวสันเขา ลงมาถึงกลางเขาหลายหลายกิโลเมตร ทำให้เกิดกลุ่มควันปกคลุมทั่วบริเวณ แต่ยังไม่ได้ลุกลาม หรือขยายแนวไฟไหม้เพิ่มขึ้นคาดพื้นที่ความเสียหายประมาณ 1,200 ไร่
เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้านรอบพื้นที่ เพราะจุดที่เกิดไฟป่า อยู่ห่างจากชุมชนออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร
เกษตรกรเผาพื้นที่เกษตรถูกตัดสิทธิ
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หนึ่งในมาตรการลดฝุ่น PM2.5 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรที่จะเข้าร่วม “โครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร” ผ่านการตรวจเช็กประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตรในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.–31 พ.ค.นี้ ด้วยการเก็บข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลของเกษตรที่ทำการเผาในพื้นที่การเกษตร พร้อมด้วยการบูรณาการประสานการขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการหมู่บ้านให้มีการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเผาพื้นที่อีกขั้นหนึ่ง
โดยหากพบว่าเกษตรที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ เมื่อตรวจสอบแล้วมีประวัติการเผาพื้นที่การเกษตร ให้ถือว่าขาดคุณสมบัติ ไม่ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรทุกโครงการ โดยให้ถือเป็นการขาดคุณสมบัติ ในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรนับตั้งแต่ 1 มิ.ย.-31 พ.ค.2570
นายอนุกูล กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการติดตาม และตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) จาก GISTDA พบจุดความร้อน โดยมีหลายพื้นที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานเพิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลขอขอให้เกษตรการงดวิธีการเผา เนื่องด้วยวิธีการดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและมีความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดได้อย่างเด็ดขาด