วันนี้ (21 ม.ค.2568) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 37 (พ.ศ.2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการเพื่อกำหนดเพิ่มลักษณะอาการของโรค จำนวน 3 กลุ่มโรค ได้แก่
1.กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง 2.โรคลำไส้โป่งพองแต่กำเนิด และ 3.โรคของเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดงผิดปกติชนิด G-6-PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) กำหนดให้เป็นคนจำพวกที่ 2 เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองเกินประจำสามารถตรวจวินิจฉัย และกำหนดคนเป็นจำพวกได้ถูกต้องตามที่หลักเกณฑ์กำหนด
นายคารม กล่าวอีกว่า จากการตรวจเลือกที่ผ่านมาได้ตรวจพบลักษณะอาการของกลุ่มโรค 3 โรคดังข้างต้น ซึ่งปรากฏตามร่างกายหรือภายในร่างกายของบุคคลที่เป็นโรค และยังคงแสดงอาการของโรคทางร่างกายเห็นได้ชัดว่าไม่สมบูรณ์ดีเหมือนคนจำพวกที่ 1 แต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ ซึ่งเป็นลักษณะอาการโรคของคนจำพวกที่ 2 แต่ปัจจุบันยังกำหนดให้เป็นคนจำพวกที่ 1 ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ
ดังนั้น กระทรวงกลาโหม (กห.) เห็นสมควรกำหนดให้คนที่มีอาการ 3 กลุ่มโรคดังกล่าว เป็นคนจำพวกที่ 2 ไม่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการในกรณีที่มีคนจำพวกที่ 1 มีจำนวนเพียงพอกับยอดความต้องการทหารกองประจำการ เพื่อให้การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะกรรมการตรวจเลือกสามารถกำหนดคนเป็นจำพวกได้อย่างถูกต้อง และกองทัพได้กำลังพลที่ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจด้านความมั่นคง
อ่านข่าว:
ครม.ไฟเขียว “ภาษีคาร์บอน” 200 บาท/ตัน หนุนไทยสู่ Net Zero
พิษฝุ่น PM 2.5 ทำผิวแก่เร็ว โรคผิวหนังกำเริบ
ยังไม่ยกเลิกฟรีวีซา "นักท่องเที่ยวจีน" เร่งฟื้นความเชื่อมั่นเที่ยวไทย