วันนี้ (20 ม.ค.68) นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับหนังสือจากนางชาลิดา ทาเจริญศักดิ์ ผอ.มูลนิธิศักภาพชุมชน กรณีชาวอุยกูร์ 48 คน จะถูกบังคับส่งกลับไปเผชิญภัยอันตรายที่จีน หลังจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้เข้าไปตรวจเยี่ยมชาวอุยกูร์ และทราบว่ามีการให้กรอกข้อมูลแบบฟอร์มส่งตัวกลับแต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าส่งกลับไปที่ใด
มีข่าวว่าจะมีการส่งกลับเนื่องจากมีการประชุม สมช. ด้วยความกังวลและเป็นห่วงจึงขอยื่นหนังสือให้กับนางอังคณา เพื่อติดตามเรื่อง
นางอังคณา กล่าวว่า ได้รับการประสานในเรื่องนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกรรมาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ 43 คน และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้ประสานว่าขอเลื่อนการเข้าเยี่ยมออกไป และ 1 สัปดาห์ ถัดมากรรมาธิการได้ส่งหนังสือฉบับที่ 2 แจ้งว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม และจะขอเข้าเยี่ยมในวันที่ 22 ม.ค.นี้
นอกจากนี้ ตม.ได้ส่งหนังสือตอบกลับกลับมา โดยเชิญกรรมาธิการไปพบที่สำนักงาน ตม.ที่แจ้งวัฒนะ ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ เพราะต้องการไปเยี่ยมทั้ง 43 คน ต้องการไปรับฟังบรรยายสรุปข้อมูล จากทาง ตม.ซึ่งกรรมาธิการไปเยี่ยมผู้ต้องกักได้ และวันนี้จะส่งหนังสือถึง ตม.อีกครั้ง
อ่านข่าว "ภูมิธรรม" โต้กลับ "กัณวีร์" ปมรู้ข่าวสมช.ผลักดันอุยกูร์กลับจีน
นางอังคณา กล่าวอีกว่าตั้งแต่ปี 2558 มีชาวอุยกูร์ที่เข้ามาในไทยราว 300 คน เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัยในประเทศต้นทาง จากนั้นมีการส่งผู้หญิงและเด็ก 170 คนไปประเทศตุรกี ต่อมามีการส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับจีนช่วงพ.ค.2558
ในช่วงนั้นมีภาพข่าวปรากฏว่าชาวอุยกูร์ ถูกส่งกลับแต่ถูกใส่กุญแจมือ มีภาพปิดหน้า ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อความไม่ปลอดภัย
นางอังคณา กล่าวอีกว่า ขณะนี้เหลือชาวอุยกูร์ในไทย 48 คน 43 คนอยู่ในห้องกักและอีก 5 คนอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากมีความพยายามที่จะหลบหนี รวมทั้งเคยได้รับการร้องเรียนว่ามีผู้ที่มีอาการป่วยหนัก มีผู้ที่อดอาหาร และได้รับหนังสือจากชาวอุยกูที่ได้ส่งแจ้งเรื่องมาว่าแสดงความกังวลจะถูกส่งตัวกลับ
ชาวอุยกูร์ห่วงว่าจะได้รับอันตราย จึงได้เคยเข้าเยี่ยมหลายครั้งเมื่อ 2-3 ปีในช่วงเป็นกสม. ทั้งนี้ทางกรรมาธิการฯ จะตรวจสอบเรื่องนี้โดยเชิญทุกภาคส่วนมาให้ข้อมูลในวันที่ 29 ม.ค.
ประธานคณะกรรมการการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวอีกว่า ผลักดันชาวอุยกูร์กับประเทศต้นทางอาจจะเป็นการละเมิด พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย มาตรา 13 รวมถึงอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ไทย เป็นภาคีทั้งอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และอนุสัญญาด้านการบังคับสูญหายของสหประชาชาติ รัฐบาลจะต้องระมัดระวังในการกระทำการที่อาจจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
อ่านข่าวอื่นๆ
พิธีสาบานตน "โดนัลด์ ทรัมป์" บอกนัยอะไรให้กับโลก?
ย้อนผลงานสะเทือนโลก เมื่อครั้ง "ทรัมป์" นั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรก