วันนี้ (10 ม.ค.2568) พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าว่าคดีที่ชิงเงินชาวจีน โดยเกิดขึ้นในท้องที่ 2 คดี ว่า ตำรวจสามารถยึดเงินสดของกลางกลับคืนมาได้ทั้งหมด 13 ล้านบาท ขณะนี้เก็บไว้เป็นของกลางจนกว่าจะทำสำนวนคดีแล้วเสร็จ ก่อนจะคืนให้แก่ผู้เสียหาย
ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์มีนายเฉิน เป็นโบรกเกอร์ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน และเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยก่อนหน้านี้นายเฉินจะเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ที่ผ่านมามีการซื้อขายกันได้จริง โดยผู้ขายจะต้องโอนเงินดิจิทัลเข้าบัญชีนายเฉินก่อน เนื่องจากให้ราคาถูกกว่า ทำให้ผู้ซื้อสามารถนำไปขายทำกำไรต่อได้
สำหรับแผนประทุษกรรมก่อนหน้านี้ มีการซื้อขายกันได้จริง โดยเริ่มต้นจากการซื้อขายหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมามีการนัดเจรจาตกลงกันผ่านแอปพลิเคชัน Telegram ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายที่เคยให้นายเฉินเป็นโบรกเกอร์เกิดความเชื่อใจ ในครั้งต่อมาจึงซื้อด้วยจำนวนเงินที่มากขึ้น กระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) หลังจากที่ผู้ขายได้โอนเงินเข้าบัญชีนายเฉิน แต่นายเฉินกลับไม่โอนเงินดิจิทัลให้กับผู้ซื้อ จึงทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ทำให้เงินดิจิทัลตกไปอยู่ในมือนายเฉิน
จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่านายเฉินเดินทางออกจากประเทศไทยไปมาเก๊า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าบงการอยู่ที่มาเก๊า
นอกจากนี้ ได้ประสานข้อมูลไปยัง สน.มักกะสัน เพื่อตรวจสอบอีก 1 คดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน และวันเดียวกัน โดยมีความเสียหาย 4.5 ล้านบาท ปรากฏว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่นายเฉินที่เป็นต้นเหตุในคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สน. ห้วยขวาง
สำหรับรถโตโยต้า อัลพาร์ด ที่ใช้ก่อเหตุชิงเงิน 5 ล้านบาท ตำรวจได้นำมาจอดไว้ที่ สน.ห้วยขวาง โดยเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) เจ้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานภายนอกรถเบื้องต้นแล้ว หากได้กุญแจรถมาก็จะประสานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถอีกครั้ง
เบื้องต้นสอบปากคำพยานแล้ว 3 ปาก โดยในวันนี้ได้นัดให้เจ้าของอาคารย่านยานาวาที่เจ้าของรถคันก่อเหตุไปเช่าเปิดออฟฟิศมาให้ปากคำเพิ่ม
สำหรับเงินจำนวน 13 ล้านบาท จะเป็นเงินที่มาจากการทำธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม
อ่านข่าว : ตร.เร่งตามจับ 3 ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์คนจีน 5 ล้าน ย่านห้วยขวาง
DSI เตรียมตั้งคณะทำงานดูความเห็นแย้ง หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง 2 บอส