ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ป.ป.ช.ยืนยันอดีต จนท.เป็นข่าวเรียกรับเงิน ไม่เกี่ยวข้องภารกิจสำนักงาน

อาชญากรรม
27 ธ.ค. 67
16:12
166
Logo Thai PBS
ป.ป.ช.ยืนยันอดีต จนท.เป็นข่าวเรียกรับเงิน ไม่เกี่ยวข้องภารกิจสำนักงาน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ป.ป.ช. ยืนยันอดีตเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับภารกิจสำนักงาน ป.ป.ช. หรือมาช่วยงานกรรมการ ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่ปี 2563 แต่อย่างใด

วันนี้ (27 ธ.ค.2567) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งพนักงานไต่สวนระดับสูง มีความสนิทสนมกับกรรมการ ป.ป.ช. และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำภาค มีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกไล่ออกจากราชการ ถูกดำเนินคดีอาญา แต่ยังมีพฤติกรรมเข้า-ออกภายในสำนักงาน ป.ป.ช. และยังติดตามกรรมการ ป.ป.ช. คนดังกล่าว

สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุว่า กรณีดังกล่าวได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพบว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มีการกระทำความผิดวินัยกรณีจงใจนำข้อมูลเรื่องกล่าวหาที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายไปเปิดเผย จึงมีคำสั่งพักราชการเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2563 ต่อมามีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงและดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งจากการสอบสวนวินัยนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. มีคำสั่งลงวันที่ 28 มิ.ย.2564 ลงโทษไล่เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. รายดังกล่าวออกจากราชการเนื่องจากกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่มีคำสั่งพักราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2563

ส่วนการดำเนินคดีอาญา คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดอดีตเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนดังกล่าว กรณีร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการช่วยเหลือทางด้านคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายหรือโดยทุจริต และรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำด้วยประการใด ๆ อันมิชอบ ด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับนั้น และเปิดเผยข้อความ ข้อเท็จจริง หรือข้อมูลที่ได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 164 ประกอบมาตรา 91

และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 มาตรา 173 และมาตรา 180 ประกอบมาตรา 183 และประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวนพร้อมเอกสารประกอบให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2567 

ต่อมาสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 1 มีหนังสือแจ้งว่า อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นควรรับดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาในฐานความผิดดังกล่าว และดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 แล้ว เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567

อนึ่งตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2563 ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนดังกล่าวถูกพักราชการและถูกไล่ออกจนถึงปัจจุบัน อดีตเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนดังกล่าวไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ช.หรือมาช่วยงานกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด

อ่านข่าว : ขยายผลเครือข่าย "ทริปน้ำไม่อาบ" จับผู้ต้องหา-ยาบ้า 15.6 ล้านเม็ด

ภูมิรัฐศาสตร์ "ภูมิภาค-เพื่อนบ้าน" ความท้าทายการทูตไทย 2025

"ทวี" ชี้แจง "ดีเจแมน - ใบเตย" จ่อได้รับเงินเยียวยารวมกว่า 8 แสน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง