ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นทีสีคราม มหันตภัย "สึนามิ" โหดร้ายเกินมนุษย์จะคาดเดา

ภัยพิบัติ
19 ธ.ค. 67
14:07
246
Logo Thai PBS
นทีสีคราม มหันตภัย "สึนามิ" โหดร้ายเกินมนุษย์จะคาดเดา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สึนามิ" มหันตภัยธรรมชาติที่สร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล จากพลังงานใต้มหาสมุทรที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ แต่มนุษย์สามารถเตรียมพร้อมและลดผลกระทบได้ด้วยการป้องกันที่เหมาะสม

"สึนามิ" มหันตภัยที่ยากจะคาดการณ์

"สึนามิ" เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สร้างผลกระทบรุนแรงในวงกว้าง นับตั้งแต่การทำลายล้างชีวิตผู้คนจำนวนมาก ไปจนถึงความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม สึนามิแสดงให้เห็นถึงพลังมหาศาลที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นเงียบ ๆ ใต้มหาสมุทร ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นยักษ์ที่พัดถล่มทุกสิ่งในเส้นทาง เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์ แม้จะพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เพียงใด ก็ยังคงต้องเผชิญกับพลังธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้

ต้นกำเนิดพลัง กลไกการเกิด "สึนามิ"

การเกิดสึนามิเปรียบเสมือนการโยนก้อนหินลงไปในน้ำจนเกิดคลื่นวงแหวน แต่ในกรณีของสึนามิ "ก้อนหิน" นั้นคือแผ่นดินไหวใต้ทะเล หรือแม้กระทั่งภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินถล่ม ความรุนแรงขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของแผ่นดินไหว ซึ่งในบางครั้งอาจเกิดคลื่นสูงถึง 30 เมตรเมื่อเข้าสู่ชายฝั่ง การสะสมพลังงานในแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ แต่รุนแรงนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ

นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า สึนามิเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานมหาศาลอย่างฉับพลันในมหาสมุทร ซึ่งมีสาเหตุหลัก 4 ประการ ได้แก่ 

1.แผ่นดินไหวใต้มหาสมุทร เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก เมื่อแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น เคลื่อนที่มาชนหรือแยกตัวกัน แรงเสียดทานและการสะสมพลังงานทำให้เกิดการปลดปล่อยพลังงานอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ผิวน้ำทะเลเกิดการกระเพื่อมและก่อตัวเป็นคลื่นสึนามิ ยิ่งแผ่นดินไหวมีความรุนแรงและลึกน้อยเท่าไร คลื่นที่เกิดขึ้นยิ่งใหญ่เท่านั้น

2.ภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด การระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำทำให้น้ำถูกแทนที่อย่างรวดเร็ว จนเกิดการกระเพื่อมของน้ำทะเลอย่างรุนแรง

3.ดินถล่มใต้มหาสมุทรหรือชายฝั่ง มวลดินหรือหินจำนวนมากที่เคลื่อนตัวลงสู่มหาสมุทร ทำให้เกิดการแทนที่ของน้ำอย่างฉับพลันและส่งพลังงานมหาศาลให้กลายเป็นคลื่นสึนามิ

4.อุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงสู่มหาสมุทร แม้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่การกระแทกของอุกกาบาตสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนมหาศาลและคลื่นสึนามิที่มีความรุนแรงเกินจินตนาการ

การกระจายพลังงานของ "สึนามิ"

ในมหาสมุทรเปิด สึนามิอาจดูเหมือนคลื่นปกติที่มีความสูงเพียง 1-2 เมตร แต่สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงถึง 500-800 กม./ชม. ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วของเครื่องบินไอพ่น เมื่อคลื่นเดินทางเข้าสู่ชายฝั่ง น้ำทะเลที่ถูกบีบอัดให้แคบลงจะยกตัวสูงขึ้นและกลายเป็นกำแพงน้ำยักษ์ที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล

จากการศึกษาทางธรณีวิทยา พบว่าพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดสึนามิ ได้แก่ บริเวณวงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้และอเมริกาเหนือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่แผ่นเปลือกโลกชนกันบ่อยครั้ง ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด

ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ชายฝั่งในมหาสมุทรแอตแลนติก เช่น ยุโรปตะวันตกและแอฟริกา มีความเสี่ยงต่ำกว่าเพราะแผ่นเปลือกโลกในบริเวณนั้นเคลื่อนตัวน้อยกว่า

ประเทศญี่ปุ่นถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่น ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า สึนามิครั้งใหญ่หลายครั้งเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ เช่น สึนามิที่เมืองเซนไดในปี 2011

"สึนามิ" ความสูญเสียที่ยากจะประเมิน

เหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดียปี 2004 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลกระทบจากธรรมชาติที่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้ คลื่นยักษ์ที่เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 9.1-9.3 นำพาความเสียหายข้ามประเทศ ทั้งในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 คน และทรัพย์สินหลายล้านครอบครัวถูกทำลาย อีกตัวอย่างคือ สึนามิในญี่ปุ่นปี 2011 ซึ่งไม่ได้เพียงทำลายบ้านเรือนและชีวิต แต่ยังสร้างวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ที่ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน

  1. ชีวิตและความสูญเสีย สึนามิสามารถคร่าชีวิตคนจำนวนมากในเวลาไม่กี่นาที ตัวอย่างเช่น สึนามิปี 2004 มีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 คนใน 14 ประเทศ
  2. เศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน อาคาร บ้านเรือน ถนน และท่าเรือถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ประเทศต้องใช้เวลาและงบประมาณจำนวนมากในการฟื้นฟู
  3. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สึนามิทำลายป่าชายเลน แนวปะการัง และระบบนิเวศชายฝั่ง อีกทั้งยังนำมาซึ่งการปนเปื้อนของสารเคมีและน้ำเค็มสู่พื้นที่เกษตร
  4. วิกฤตการณ์ระยะยาว เหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่นปี 2011 ไม่เพียงทำลายชีวิตและบ้านเรือน แต่ยังทำให้เกิดวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนจนถึงปัจจุบัน

10 สึนามิที่รุนแรงที่สุดของโลก

  1. สุมาตรา, อินโดนีเซีย (2004) แผ่นดินไหวขนาด 9.1 คลื่นสูง 50 ม. พัดลึก 5 กม. คร่าชีวิตประมาณ 230,000 คน และสร้างความเสียหายกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  2. เซนได, ญี่ปุ่น (2011) แผ่นดินไหวขนาด 9.0 คลื่นสูง 10 ม. คร่าชีวิตประมาณ 18,000 คน และเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ ความเสียหายรวม 235,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  3. ลิสบอน, โปรตุเกส (1755) แผ่นดินไหวขนาด 8.5 คลื่นสูง 30 ม. ส่งผลถึงแคริบเบียน คร่าชีวิตประมาณ 60,000 คน
  4. กรากาเตา, อินโดนีเซีย (1883) การปะทุของภูเขาไฟสร้างคลื่นสูง 37 ม. ทำลายเมืองชายฝั่งและคร่าชีวิตประมาณ 40,000 คน
  5. ทะเลเอนชูนาดะ, ญี่ปุ่น (1498) แผ่นดินไหวขนาด 8.3 คลื่นทำลายแนวชายฝั่ง คร่าชีวิตประมาณ 31,000 คน
  6. นันไคโดะ, ญี่ปุ่น (1707) แผ่นดินไหวขนาด 8.4 คลื่นสูง 25 ม. คร่าชีวิตประมาณ 30,000 คน
  7. ชิลีตอนเหนือ (1868) แผ่นดินไหวขนาด 8.5 คลื่นสูง 21 ม. ส่งผลทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก คร่าชีวิตประมาณ 25,000 คน
  8. ซันริคุ, ญี่ปุ่น (1896) แผ่นดินไหวขนาด 7.6 คลื่นสูง 38 ม. คร่าชีวิตประมาณ 22,000 คน
  9. หมู่เกาะริวกิว, ญี่ปุ่น (1771) แผ่นดินไหวขนาด 7.4 คลื่นสูง 11-15 ม. คร่าชีวิตประมาณ 12,000 คน
  10. อ่าวอิเสะ, ญี่ปุ่น (1586) แผ่นดินไหวขนาด 8.2 คลื่นสูง 6 ม. คร่าชีวิตประมาณ 8,000 คน

แม้เราไม่สามารถหยุดยั้งสึนามิได้ แต่เราสามารถป้องกันและเตรียมพร้อมเพื่อให้ความเสียหายลดน้อยลง ด้วยระบบเตือนภัยสึนามิ ที่ในหลายประเทศมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวและระดับน้ำทะเล เพื่อแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า การศึกษาและฝึกซ้อมรับมือ ประชาชนควรได้รับความรู้เรื่องสึนามิ เช่น หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ควรอพยพขึ้นที่สูงทันที แนวป้องกันธรรมชาติ เช่น การปลูกป่าชายเลนและสร้างกำแพงกันคลื่นสามารถช่วยชะลอความรุนแรงของคลื่นได้ สุดท้ายคือ เส้นทางอพยพและที่หลบภัย ที่ควรมีการวางแผนและจัดสร้างสถานที่หลบภัยในพื้นที่เสี่ยงสึนามิ

"สึนามิ" ถือเป็นเครื่องเตือนมนุษย์ ให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แม้จะมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่เรายังคงต้องเรียนรู้และอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเคารพ การป้องกันและการเตรียมพร้อมคือหนทางที่ดีที่สุดในการลดความสูญเสีย และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วโลก

“20 ปี สึนามิ จุดเปลี่ยนภัยพิบัติ”

ไทยพีบีเอส ขอเชิญชวนคนไทย ร่วมรำลึก “20 ปี สึนามิ จุดเปลี่ยนภัยพิบัติ” ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ทางไทยพีบีเอส และทุกช่องทางออนไลน์  www.thaipbs.or.th/Disaster


อ่านข่าวเพิ่ม : 

20 ปีสึนามิ จุดเปลี่ยนรับมือ "ภัยพิบัติ"

นทีสีคราม มหันตภัย "สึนามิ" โหดร้ายเกินมนุษย์จะคาดเดา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง