วันนี้(8 ธ.ค.2567) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ มีคำตัดสินปฏิเสธคำอุทธรณ์ของ TikTok ที่ยื่นฟ้องคัดค้านกฎหมายซึ่งอาจนำไปสู่การแบนหรือการบังคับขาย TikTok ในสหรัฐฯ ภายในต้นปี 2568 TikTok ได้แย้งว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในประเด็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ อย่างไรก็ตาม ศาลยืนยันว่ากฎหมายนี้เป็นผลจากกระบวนการที่ "รอบคอบ" เพื่อป้องกันภัยความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน
ศาลระบุว่ากฎหมายดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายชัดเจนในการลดอิทธิพลที่อาจเกิดขึ้นจากประเทศที่ถูกมองว่าเป็น "คู่ปรับทางยุทธศาสตร์" ของสหรัฐฯ และเน้นว่าเป็นผลจากการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ในรัฐสภาและประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายสมัยที่ผ่านมา
TikTok ออกแถลงการณ์ทันทีหลังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ โดยยืนยันว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ศาลสูงสุด ซึ่งเป็นหน่วยงานตุลาการสูงสุดในสหรัฐฯ TikTok เชื่อมั่นว่าศาลสูงจะรักษาสิทธิของชาวอเมริกันตามรัฐธรรมนูญในประเด็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น พร้อมย้ำว่ากฎหมายนี้ตั้งอยู่บน "ข้อมูลที่ผิดพลาด สมมุติฐาน และไร้หลักฐานสนับสนุนที่เพียงพอ"
ศาลสูงสุดมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการปกป้องเสรีภาพของชาวอเมริกัน และ TikTok คาดหวังว่าพวกเขาจะทำเช่นเดียวกันในประเด็นสำคัญนี้

เส้นชัยของทรัมป์ ชัยชนะของ TikTok ?
ความหวังของ TikTok อาจอยู่ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.2568 ซึ่งเป็นวันถัดจากที่กฎหมายกำหนดให้ TikTok ต้องถูกบังคับขายหรือแบน แต่ตัวทรัมป์เองเคยกล่าวในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า "เขาจะไม่อนุญาตให้การแบน TikTok มีผลบังคับใช้"
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการเมือง ศ.เจมส์ กริมเมลแมนน์ จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ เตือนว่า ทรัมป์อาจต้องเผชิญแรงต้านอย่างหนักจากสภาคองเกรส ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสนับสนุนการจำกัด TikTok ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

แบน TikTok กระทบครีเอเตอร์-ผลดีแพลตฟอร์มคู่แข่ง
การแบน TikTok ในสหรัฐฯ จะสร้างความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ต่อทั้งผู้ใช้งานและอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดีย ผู้สร้างคอนเทนต์จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสร้างรายได้ จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่นเดียวกับธุรกิจขนาดเล็กที่พึ่งพา TikTok ในการโฆษณาและสร้างการรับรู้แบรนด์
จัสมิน เอ็นเบิร์ก นักวิเคราะห์จาก eMarketer กล่าวว่าการแบน TikTok จะเป็นโอกาสสำคัญของแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง Meta (เจ้าของ Facebook, Instagram และ Threads) รวมถึง YouTube และ Snap ที่ได้พัฒนาฟีเจอร์วิดีโอสั้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้จาก TikTok

อย่างไรก็ตาม คอรี จอห์นสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจาก Epistrophy Capital Research ชี้ว่า TikTok มีระบบการแนะนำเนื้อหาที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่ล้ำหน้าและซับซ้อน ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มอื่นลอกเลียนแบบได้ยาก พร้อมชี้ให้เห็นถึงความท้าทายด้านการจัดการข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าเป็นความเสี่ยง
TikTok มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อน การสร้างระบบแบบนี้ใหม่ในแพลตฟอร์มอื่นต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล
อนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับผลการตัดสินของศาลสูงสุดและท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะปฏิบัติตามที่เคยกล่าวไว้ในช่วงหาเสียงหรือไม่ ท่ามกลางแรงกดดันจากกระแสต่อต้านจีนที่ยังคงแข็งแกร่งในรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะที่ TikTok ยืนกรานต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ แพลตฟอร์มคู่แข่งและผู้ใช้งานต่างจับตาดูความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในวงการโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด

อ่านข่าวอื่น :