วันนี้ (4 พ.ย.2567) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราช การแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถลงข่าวกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ส่งคนเข้าสอบแทน และกรณีนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง
จากการตรวจสอบเอกสารเรื่องการยุติดำเนินการทางวินัยกับนักศึกษาคนดังกล่าว เป็นเรื่องที่เกิดในสมัยที่นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ เป็นอธิการบดี
โดยนายสืบพงษ์ทำหน้าที่ทั้งในฐานะอธิการบดี และประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.ร.) ได้เสนอรายงานผลการสอบวินัยนักศึกษา ให้ ก.บ.ม.ร. และมีมติให้ "ยุติเรื่อง" ในการประชุมวันที่ 8 มิ.ย.2565
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราช การแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
สำหรับกรณีถูกอดีตผู้บริหาร แจ้งความกล่าวโทษด้วยข้อหาอาญาร้ายแรง มอบให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งความดำเนินคดี กับนายสืบพงษ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ โดยรู้อยู่แล้วว่ามิได้ในการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้น
ไม่มีปัญหาเรื่องการเมืองภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนตัวรักอดีตผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่ปรากฎตามข่าวทุกคน ไม่มีเรื่องการเช็ก บิลกลั่นแกล้งแน่นอน
ทนายยัน "สามารถ" ไม่ใช้ใครเรียนแทน
ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงข่าว นายธีรศานต์ เเก้วส่ง ทนายความของนายสามารถ มาฟังการแถลงข่าวด้วย ได้สอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยชี้แจงว่าเกิดขึ้นในสถาบันภาษา กับหลักสูตรปริญญาเอก เป็นคนละกรณีกันใช่หรือไม่
แต่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เนื่องจากมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
นายธีรศานต์ ชี้แจงว่า นายสามารถ ไม่ได้ให้ใครไปเรียนแทน หรือสอบแทน หากนายสามารถ ไม่ได้ไปเข้าเรียนช่วงหนึ่ง ก็ต้องถูกยึดเงินที่สมัครเรียนไป และได้มาสมัครอบรมใหม่ โดยเข้ามาเรียนเอง-สอบเอง 100% และมีใบประกาศรับรองชัดเจน ไม่ได้ให้บุคคลอื่นมาตอบแทน
นายธีรศานต์ เเก้วส่ง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช
นายสามารถไม่ได้ใช้ใครไปเรียน ไปสอบ และคนที่มาเซ็นชื่อสอบแทนนั้น ไม่ใช่คนใกล้ชิดของนายสามารถ แต่เดินทางไปดำเนินการเอง และไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวได้ประโยชน์อะไร เพราะไม่รู้จัก
นายธีรศานต์ กล่าวว่า ที่ต้องมาชี้แจง เพราะการแถลงของทางมหาวิทยาลัยไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน และข้องใจว่าทางมหาวิทยาลัยจะแถลงอะไร เพราะนายสามารถก็ได้รับการลงโทษไปแล้ว จากการที่ต้องลงทะเบียนเรียนใหม่ ทำให้การเรียนปริญญาเอกชะงักไปช่วงหนึ่ง
ซึ่งหากกระบวนการสอบสวนในเรื่องนี้ มาจากกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยมีปัญหา กันเองภายในก็จะต้องฟ้องกลับเหมือนกัน ถ้ามีปัญหากระทบการเรียนระดับปริญญาเอกของนายสามารถ ก็จะดำเนินการตรวจสอบด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าทางมหาวิทยาลัยได้ทำการสอบสวนเสร็จไปแล้ว