ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เหตุแตะสุดซอย-จริยธรรม "เพื่อไทย" โดนเทถอยแก้รัฐธรรมนูญ

การเมือง
26 ก.ย. 67
10:33
298
Logo Thai PBS
เหตุแตะสุดซอย-จริยธรรม "เพื่อไทย" โดนเทถอยแก้รัฐธรรมนูญ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พรรคเพื่อไทยต้องถอยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ประเด็นจริยธรรมที่คนต่างสงสัยว่า เหตุใดนักการเมืองจึงกลัวนักกลัวหนา ขนาดยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็จะแก้รัฐธรรมนูญแล้ว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ “หากไม่ได้ทำผิดจะกลัวอะไรกับเรื่องตรวจสอบ”

ครั้งแรกอาจมั่นใจว่า พรรคฝ่ายค้านใหญ่อย่างพรรคประชาชนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่ ๆ เพราะยื่นร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมไปแล้ว

แต่สำหรับท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ที่แสดงผ่านแกนนำพรรค และจากการหารือนอกรอบเมื่อวันอังคาร (24 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า หลายพรรคไม่เอาด้วย โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรมนักการเมือง ถึงขั้นบางพรรคตั้งโต๊ะอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ ทั้งถามกลับด้วยซ้ำ

แม้จะอ้างว่า “จริยธรรมเป็นเรื่องนามธรรม” แต่กระแสสังคมกลับเห็นต่างออกไป เพราะการมีจริยธรรม เป็นเรื่องที่ดีและผู้คนต้องการอยากจะเห็น เมื่อบวกกับท่าทีคัดค้านจาก สว. และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งโจทก์เก่าและโจทก์ใหม่ ทยอยออกโรงต้าน ปลุกผู้คนคัดค้าน และผุดวาทกรรม แก้รัฐธรรมนูญแบบสุดซอย

จะซ้ำรอยกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอยเมื่อปี 2556 มิหนำซ้ำ มีการยื่นร้องเรื่องนี้ ไปยังป.ป.ช. หรือแม้แต่ยื่นต่อประธานสภาฯ คัดค้านไม่ให้รับร่างจากพรรคการเมืองที่ยื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญ

ทำให้สุดท้ายพรรคเพื่อไทย ต้องประกาศถอย ไม่เพียงประเด็นจริยธรรมนักการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตราด้วย เพื่อกลับไปตั้งหลักใหม่ ตราบใดที่กระแสสังคมไม่ได้ขานรับ

เห็นได้ชัดจากนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร โยนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาฯ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เหมือนกับการโยนเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม จะพ่วงรวมความผิด ม.112 ด้วยหรือไม่ ก็โยนไปสภาฯ หลังเคยถูกวิพากษ์ว่า จุดยืนเรื่อง ม.112 ของพรรคเพื่อไทย ไม่ตรงปกกับเมื่อครั้งหาเสียง

พรรคเพื่อไทย ยังอ้างประเด็นเรื่องจริยธรรม เป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่พรรคอื่นยังไม่ได้ขยับเรื่องนี้ มีแต่แกนนำจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่พูดจ้ออ้างความสำคัญเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และประเด็นจริยธรรมอยู่พรรคเดียว ทันทีที่รู้ว่า เป็นเรื่องแสลง ที่ผู้คนไม่เอาด้วย

จึงถอยปรับกระบวนทัพใหม่ จากเดิมจะเดินหน้าแก้ไขทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก เพื่อหวังใช้เป็นเกราะกำบังป้องกัน หลังจากโดนยื่นเรื่องร้องเรียนจากนักร้องหลายคน รวมแล้วร่วมสิบคำร้อง เป้าหมายหลักอยู่ที่ น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี และการยุบเพื่อไทย รวมทั้งยื่นร้องตรวจสอบการเข้าแทรกแซงครอบงำของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา

เท่ากับรู้ว่า ยิ่งดันทุรังยิ่งมีโอกาสเผชิญความเสี่ยงไม่จบไม่สิ้น เพราะความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ คือนายกฯก็ต้องหวั่นไหวต่อเรื่องถูกยื่นเรื่องร้องสาระพัดคำร้องเช่นกัน เห็นได้จากคำตอบ หลังถูกถามเรื่องนี้ที่ว่า “มีใครไม่กลัวกฎหมายบ้าง”

ต้องไม่ลืมว่า น.ส.แพทองธาร ไม่เคยมีประสบการณ์และตำแหน่งใน ครม.มาก่อนเลย แต่กลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึมครึม สุ่มเสี่ยง หรือที่นักวิเคราะห์การเมือง เรียกว่า ได้เข้าสู่ “คิลลิ่งโซน”

จึงต้องอาศัยประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก เป็นที่ใช้หลังพิงสู้ ยิ่งคำประกาศว่าภารกิจสำคัญ และเร่งด่วนที่สุดขณะนี้ คือแก้ปัญหาน้ำท่วม การเยียวยา และการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำคัญกว่าแก้รัฐธรรมนูญ และก่อนหน้านี้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จะลงพื้นที่ไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้กำลังใจประชาชนผู้เดือดร้อน

เป็นการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ เพราะจะเป็นยุทธวิธีที่จะสามารถเรียกความศรัทธาและคะแนนนิยมให้กลับคืนมาได้ หลังเผชิญมรสุมทั้งภายนอกและภายในสารพัด

รวมทั้งการแสดงบทบาทอย่างมากของนายทักษิณ ทั้งทางปฏิบัติและทางคำพูดที่ว่า ไม่ได้ครอบงำแต่ครอบครอง แทนที่จะเปิดทางให้ น.ส.แพทองธาร ได้แสดงบทบาทอย่างเป็นอิสระในฐานะผู้นำรัฐบาล

จึงเป็นภารกิจสำคัญของพรรคเพื่อไทย และบรรดาแกนนำที่ไปนั่งใน ครม. พึงต้องขานรับและปฏิบัติ อันจะมีผลโดยตรงต่อการปกป้อง น.ส.แพทองธาร ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และจะได้ผลมากกว่าการดันทุรังเดินหน้าในเรื่องที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชน

เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ตอนนี้น่าจะเลิกฝันเลิกลุ้น ว่ารายมาตราหรือทั้งฉบับ

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : กางข้อมูลน้ำท่วม "แจ้ห่ม-เกาะคา-ศรีสัชนาลัย" ภาคกลางยังไม่น่ากังวล

แม่น้ำปาย ระดับน้ำสูงเกินระดับวิกฤติ เริ่มท่วมพื้นที่การเกษตร

สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา "นครสวรรค์-ชัยนาท" น้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง