ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เจ้าของจำใจเชือดจระเข้ยกฟาร์มกว่าร้อยตัว หวั่นน้ำท่วมหลุดกัดคน

ภูมิภาค
24 ก.ย. 67
16:28
2,522
Logo Thai PBS
เจ้าของจำใจเชือดจระเข้ยกฟาร์มกว่าร้อยตัว หวั่นน้ำท่วมหลุดกัดคน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เจ้าของฟาร์มจระเข้ชื่อดังลำพูน จำใจเชือดจระเข้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์นับร้อยตัว หลังกำแพงบ่อจระเข้พังเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน หวั่นจระเข้ออกสู่ลำน้ำสาธารณะ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนและรับผิดชอบต่อสังคม สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 ล้านบาท

วันนี้ (24 ก.ย.2567) นายณัฐพากษ์ คำกาศ หรือ เอ๊กซ์ เจ้าของฟาร์มจระเข้ชื่อดัง และเจ้าของจระเข้หันอินเตอร์ลำพูน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็กซ์ วัวหันอินเตอร์ โดยมีข้อความระบุว่า วันนี้ตัดสินใจเอาจระเข้พ่อแม่พันธ์ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น ประมาณ 17 ปี ออกจากบ่อทั้งหมด หนึ่งในปัจจัยคือเรื่องฟ้าฝนที่ปีนี้ดูจะรุนแรงเกิน

ผมต้องรีบตัดสินใจแบบเร่งด่วนที่สุด ป้องกัน ดีกว่ามาแก้ไขทีหลัง ปรึกษาครอบครัวและคนใกล้ชิด มีมติเอกฉันท์ ปกติผมจะไม่ค่อยยอม แต่มาคิดหลายๆ ด้าน ชั่งใจอยู่นานพอสมควร มันคือทางเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้แล้วละ จำใจจริงๆ ปีหน้าเราจะไม่มีเก็บไข่จระเข้ หรือทำคลอดจระเข้อีกแล้ว เชื่อว่า ฟ้าหลังฝนจะสดใสเสมอ

ทั้งนี้ฝนตกหนัก ดินชุ่มน้ำ อุ้มน้ำจนพื้นน่วม อ่อนปวกเปียก ทำให้การทำงานค่อนข้างจะยากมาก

นายณัฐพากษ์เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กำแพงบ่อเลี้ยงจระเข้ ที่บ้านสันคะยอม ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน พังลงมาเสียหายบางส่วน

ซึ่งเกรงว่าหากเป็นเช่นนี้ฝนตกซ้ำมาอีก จะทำให้กำแพงพังเสียหายทั้งหมด แล้วจะทำให้จระเข้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ที่เลี้ยงไว้กว่า 100 ตัว จะหลุดออกไปสู่ลำน้ำสาธารณะได้ ตนจึงได้ป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นได้ และเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการป้องกันไว้ก่อนแก้ ตนจึงจับจระเข้ทั้งหมด ออกมาเชือดเพื่อฟิตเข้าห้องเย็นไว้และนำไปจำหน่ายต่อไป

ถามว่าเสียดายมั้ย บอกได้เลยว่า เสียดายมาก แต่จะทำอย่างไรได้แม้จะใจหายและเจ็บปวดก็ตาม เพราะนี่คือการป้องกันการแก้ปัญหาไว้ก่อนจระเข้หลายตัวที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เริ่มทำฟาร์มคือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว หากคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,000,000 - 1,500,000 ล้านบาท

นายณัฐพากษ์ ยังระบุว่า การนำจระเข้ออกจากฟาร์ม โดยการขนกับรถแบคโฮ และการทำงานเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดเวลา

นายณัฐพากษ์ ระบุเพิ่มเติมว่า ในฟาร์มเลี้ยงจระเข้ทั้งหมดประมาณ 700 ตัว ส่วนจระเข้ที่ต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน มี 2 บ่อ แยกเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ 90 ตัว ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปี  และจระเข้ตัวใหญ่อีก 35 ตัว รวมเป็นทั้งหมด 125 ตัว

ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจแบบเร่งด่วน ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยขึ้นจะไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเกิดฝนตกหนักอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน มีกำแพงได้ล้มลง ทำให้ขยับเข้าไปกำแพงชั้นนอก

ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้มี 3 แผน คือ เริ่มตั้งแต่ย้ายจระเข้มายังบ่ออีกฝั่งหนึ่งเพื่อไม่ให้อยู่ในพื้นที่น้ำกัดเซาะ และทำการซ่อมแซมแบบเร่งด่วน แต่จากสถานการณ์ฝนที่ตกอย่างหนักและคาดการณ์แล้วว่าเอาไม่อยู่ จนถึงแผนสองที่หาบ่อเลี้ยงในพื้นที่อื่นไว้ชั่วคราว ซึ่งไม่มีบ่อไหนที่รองรับหรือเหมาะสมที่จะเลี้ยงจระเข้ จึงนำมาสู่แผนที่สาม เป็นแผนที่จำเป็นและเป็นการตัดสินใจที่ลำบากมาก โดยการเคลื่อนย้ายแบบจับตาย

ส่วนจระเข้ที่ได้ทำการเชือดแล้วจะไปใช้ประโยชน์ ทั้งเรื่องของหนัง และนำเนื้อจระเข้มาแปรรูป ทั้งนี้ประจวบเหมาะที่มีออเดอร์เข้ามาแล้วบางส่วนเป็นจระเข้หัน

สำหรับพื้นที่บริเวณโดยรอบดังกล่าว ไม่เคยมีน้ำท่วมแต่อย่างใด แต่เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนกำแพงที่อยู่ในน้ำถล่ม จากดินที่อุ้ม หรือซับน้ำมากเกินไป ซึ่งมองในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งถ้าจระเข้หลุดออกไปข้างนอกจะกลายเป็นปัญหาที่ยากต่อการควบคุม

ส่วนจระเข้ที่เหลือ เป็นลูกตัวเล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และพื้นที่ของบ่อเลี้ยงไม่ได้มีความสุ่มเสี่ยงที่จะพัง ทั้งนี้จระเข้ต้องใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 8-9 ปี ถึงจะเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ ซึ่งจระเข้จะเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ถึงอายุ 35 ปี และ หลังจากนี้รอให้ฝนหยุดตกและซ่อมแซม และรอรุ่นลูกที่จะมาเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ต่อไป

น้ำตาตกใน ไม่มีจระเข้อยู่แล้ว เมื่อวานยังอยู่ มาอีกวันกลายเป็นโล่ง ว่างเปล่า แต่จำเป็นต้องทำเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม

อ่านข่าว : 

ทน.เชียงใหม่ ตั้งวอร์รูมรับมือ “น้ำปิง” เพิ่มปริมาณ

ทางหลวงชนบท 12 สายทางเหนือ-อีสานน้ำยังท่วม รถผ่านไม่ได้

"เชียงใหม่" วิกฤตน้ำปิงล้นตลิ่ง เตือนยกของขึ้นที่สูง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง