"คามาลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศยอมรับการเสนอชื่อลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วสถานที่จัดการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตในนครชิคาโก
คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งตัวแทนพรรคใหญ่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้
คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งตัวแทนพรรคใหญ่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้
แฮร์ริส ใช้โอกาสระหว่างขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีในคืนสุดท้ายของการประชุม ให้คำมั่นว่าจะเป็นประธานาธิบดีสำหรับชาวอเมริกันทุกคน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและปกป้องเสรีภาพส่วนบุคคลในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงสิทธิในการทำแท้ง
คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งตัวแทนพรรคใหญ่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้
คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งตัวแทนพรรคใหญ่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้
นอกจากนี้ ยังชูแนวคิดความเป็นหนึ่งเดียวกันและก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีตผ่านการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสเดินหน้าไปสู่วิถีทางใหม่ ๆ หลังจากเตือนว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง จะทำให้สหรัฐอเมริกาถอยหลัง โดยทรัมป์เป็นคนที่ทำงานเพื่อตัวเองและเพื่อนๆ มหาเศรษฐีของเขาเท่านั้น
หลังจากนี้แฮร์ริสและทิม วอลซ์ คู่หูชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดี จะเดินสายหาเสียงเพื่อเรียกคะแนนจากชาวอเมริกัน ก่อนหน้าการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้
คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งตัวแทนพรรคใหญ่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้
คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งตัวแทนพรรคใหญ่ลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของหลายสำนักชี้ตรงกันว่า แฮร์ริสเริ่มมีคะแนนนิยมนำหน้าทรัมป์ ทั้งในระดับประเทศและในรัฐสมรภูมิสำคัญ ท่ามกลางการจับตามองว่าเธอจะสามารถรักษากระแสความนิยมนี้ได้ดีต่อไปเรื่อยๆ จนถึงวันเลือกตั้งหรือไม่
อ่านข่าว : เปิดประวัติ "คามาลา แฮร์ริส" ตัวเต็งชิงเก้าอี้ ปธน.สหรัฐฯ
อำลาการเมือง "ไบเดน" กล่าวสุนทรพจน์ส่งไม้ต่อ "แฮร์ริส"
"แฮร์ริส" เปิดตัว "ทิม วอลซ์" คู่ชิงตำแหน่งรอง ปธน.สหรัฐฯ