สืบนครบาลจับผู้ต้องหาระดับ "แม่ทีม" คดีฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุน Forex

อาชญากรรม
7 ก.ค. 67
12:29
798
Logo Thai PBS
สืบนครบาลจับผู้ต้องหาระดับ "แม่ทีม" คดีฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุน Forex
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจสืบสวนนครบาล จับผู้ต้องหาระดับ "แม่ทีม" คดีฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุน โดยกล่าวอ้างว่า รับฝากเงินลงทุน นำไปเพิ่มมูลค่าโดยการนำไปเทรด forex โดยมีผู้หลงเชื่อเข้าไปร่วมลงทุนจำนวนมาก

วันนี้ (7 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล นำหมายศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าแสดงก่อนจับกุมผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ที่บริเวณลานจอดรถของวัดแห่งหนึ่งย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี

พฤติการณ์ของผู้ต้องหา คือ ก่อเหตุในช่วงปี 2560 โดยหลอกลวงผู้อื่นลงทุนโดยกล่าวอ้างว่า รับฝากเงินลงทุน นำไปเพิ่มมูลค่าโดยการนำไปเทรด forex หรือ ซื้อ-ขาย อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศ และรับรองกำไรที่ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จากเงินลงทุน ซึ่งมีผู้หลงเชื่อเข้าไปร่วมลงทุนจำนวนมาก

อีกทั้งผู้ต้องหารายนี้เป็นหนึ่งใน “หัวเรือ” หรือ “แม่ทีม” คนสำคัญ โดยได้ชักชวนผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้เป็นจำนวนมาก พร้อมบอกกับผู้ลงทุนว่า หากสามารถชักชวนผู้สนใจมาร่วมลงทุนได้จำนวนมากจะได้สิทธิพิเศษในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทำให้มีผู้สนใจเข้าไปร่วมลงทุนจำนวนมาก

ผู้เสียหายในคดีนี้ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนกว่า 5,000,000 บาท แต่หลังจากวงแชร์ล่ม ผู้บริหารบริษัทที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างชื่อถูกจับกุมทำให้ผู้ต้องหาผันตัวมาอยู่สายบุญจนถึงปัจจุบัน

ขณะที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากไม่ได้รับผลตอบแทน และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จากนั้นได้มีการออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียกจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า จากการติดตามเพื่อพิสูจน์ทราบตัวตนของ ผู้ต้องหา ก็พบว่า จะทำบุญที่วัดทุกวันพระเป็นประจำและมักมีการปรับเปลี่ยน “ทรงผม” อยู่บ่อยครั้ง คาดว่า เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งวันนี้ก็สวมใส่วิกผมสีน้ำตาลเช่นกัน

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยให้การว่า เป็นการลงทุนจริง ๆ ไม่ได้เป็นการฉ้อโกง เพราะได้เงินจริง ส่วนเรื่องที่เป็นคดีความเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ได้รับการชักชวนจากคนรู้จักให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการเทรดหุ้น ได้เงินจากการลงทุนจริง ได้ผลกำไรจากการลงทุนร้อยละ 7 ต่อเดือน เมื่อได้เงินจริง ก็เริ่มชักชวนคนรอบตัวมาร่วมลงทุนเพิ่ม

ต่อมา เมื่อปี 2561 บริษัทที่ลงทุนเริ่มประสบปัญหาในการจ่ายปันผล ไม่ได้เงินตามที่ลงทุนไป ทำให้ไม่ได้นำเงินไปจ่ายให้กับคนที่ได้ชักชวนมาจึงเกิดคดีความขึ้น หลังบันทึกจับกุม ได้ส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

อ่านข่าว : "ดีเอสไอ" แจงกรณีศาลยกฟ้องคดี Forex-3D คนละคดีกับที่สอบสวน 

ศาลยกฟ้อง "ใบเตย" คดีผู้เสียหาย Forex-3D ยื่นฟ้อง  

ปล่อยตัวเย็นนี้! ศาลให้ประกัน "ใบเตย" คดี Forex-3D ติดกำไล EM

 

 

 

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง