ความคืบหน้ากรณีช้างของศูนย์บริบาลช้าง มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่มีช้าง 126 เชือก และสัตว์เลี้ยงที่ป่วยพิการ อพยพหนีน้ำ
วันนี้ (5 ต.ค.2567) นายชำนาญ ปานทอง ผู้จัดการปางช้างแม่ริม เข้าสำรวจซากช้าง 1 ตัวถูกน้ำพัดลงมาจากน้ำท่วมช้างปางช้าง Elephant Nature Park-EPN มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม
โดยพบในสภาพนอนจมรอบๆ ตัวเต็มไปด้วยเศษซากของกิ่งไม้ที่พัดพามากับสายน้ำ จากการตรวจสอบไมโครชิฟของกรมปศุสัตว์ พบว่าเป็นพังพลอยทอง และห่างไปอีก 300-500 เมตรพบอีก 1 เชือกพบว่าชื่อ "พังฟ้าใส" หรืออีกชื่อคือพังวันเฉลิม
พบซากช้าง 2 เชือกหลังน้ำหลากท่วมมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม
ส่วนสาเหตุคาดว่าช้างถูกน้ำพัดมาหมดแรง ประกอบกับแก่งกี๊ด เป็นแก่งที่อันตราย มีก้อนหินขนาดใหญ่ เมื่อ ช้างกลิ้งจากจุดแรกมาถึงที่นี่มีระยะทางเป็นกิโลเมตร โดยแรงกระเทก แม้แต่ซุงยังแตกเป็นซีกทั้งนี้ได้มีการหารือกันแล้วว่าจะไม่มีการผ่าชันสูตรซากช้างที่จมน้ำ โดยจะฝังซากช้างไว้ในพื้นที่
สำหรับช้างที่พบซากแล้วนั้น ชื่อพลอยทอง อายุ 40 กว่าปี ตาบอด 2 ข้าง
ส่วนฟ้าใส อายุ 16 ปี ทั้งสองเชือก เป็นช้างของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม คาดถูกกระแสน้ำในลำน้ำแตงพัดลอยไปจนติดอุโมงค์ส่งน้ำ พบซากหลังสิบแสนรีสอร์ต โดยพบว่าที่งวงช้างมีเลือดไหลออก คาดว่าน่าจะฟาดกับโขดหิน ขณะไหลมาตามกระแสน้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถว่ายน้ำต่อ
โดยพระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน หรือพระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ พร้อมลูกศิษย์ ลงพื้นที่จุดพบซากช้าง และนำผ้าจีวรที่ถือมา คลุมที่หัวและตัวช้าง เพื่อสื่อความหมายเหมือนเป็นการได้จับชายผ้าเหลือง เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่
วันมหาวิปโยคน้ำท่วม 3 เมตรพัดช้างหาย
ด้านแสงเดือน ชัยเลิศ-Saengduean Chailert โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เป็นวันแห่งความมืดมิดวันมหาวิปโยคของพวกเรา ภาพที่เห็นตอนที่สามารถเข้าไปในพื้นที่โดยเรือกู้ภัยยังหลอนจิตใจที่ไม่อาจลืมได้ การแจ้งเตือนว่าน้ำจะท่วม ได้ย้ายช้างที่อยู่ในที่ลุ่มขึ้นสู่ที่สูง แต่ใครจะคาดคิดว่าที่สูงแล้วยังไม่ปลอดภัยเมื่อน้ำท่วมถึงบนภูเขา จมหมู่บ้านกึ้ดช้างแทบทั้งหมู่บ้าน
สัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ลอยคออยู่ในน้ำ เนื่องจากช้างที่ให้นอนกลางคืนพวกเขาไม่ได้ล่ามโซ่ แต่มีโรงนอนที่มีรั้วกั้น แต่น้ำที่สูง 3 เมตรแต่น้ำมาสูงเกินรั้วโรงนอนเกือบบมิดหลังคา บางโรงนอนกระแสน้ำที่แรงมาก พัดเอาช้างตาบอด "แม่พลอยทอง" พังแม่มีบุญ และช้างหลายตัว ออกจากคอกหายไปต่อหน้าต่อตา
กระแสน้ำที่สูงและแรงยากที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงแม้ในเวลานี้ ยังติดตามหาครอบครัวคนงานคนเลี้ยงช้างเลี้ยงสัตว์ ลูกเด็กเล็กแดงอีกเยอะที่อาศัยในพื้นที่สูงฝั่งหมู่บ้านกึ้ดช้าง และหลายคนพวกยังไม่ทราบชะตากรรมว่าพวกเขาหายไปไหนบ้าง เพราะไม่มีสัญญาณและไม่มีการติดต่อ และพวกเขาอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เคยมีน้ำท่วม
ช้างคุณยายหงษ์ฟ้า ที่อยู่คลินิกอ่อนแรงให้น้ำเกลืออยู่แทบจะเดินไม่ได้มันเป็นเรื่องยากลำบากที่จะย้ายช้างแก่ช้างป่วยแต่ละตัวออกไป
พนักงานทำงานอย่างหนักฝ่ากระแสน้ำที่สูง เข้าไปช่วยช้างทั้งไม่มีอุปกรณ์และเรือแต่พยายามกันทุกคนทำงานอย่างหนัก เพื่อช่วยเอาช้างที่ถูกแรงอัดของน้ำออกจากรั้วกันต้องใช้คนมาตัดเหล็กออก ประตูโรงช้างเปิดไม่ได้เพราะโคลนทับหมด บางคอกช้างยังได้ช่วยพังรั้วออกมา
ตอนนี้ยังมีช้างสูญหายหลายตัว วัว ควาย สูญหายเยอะมาก หมาแมวทุกตัวปลอดภัยแต่พวกย้ายขึ้นไปปล่อยในที่สูงแต่ยังไม่มีกรงใส่ ขอขอบคุณจิตอาสาทุกท่านหน่วยกู้ภัย หน่วยงานราชการ ปางช้างหลายแห่งที่อยู่ในพื้นที่ส่งคนส่งควาญมาช่วยพวกในการควบคุมช้างที่ตื่นตระหนกให้ออกมาจากน้ำ
เมื่อคืนนี้มีคนมาแจ้งว่าพบช้างสองตัวเสียชีวิตซึ่งใจสลายมาก และจะนำรายละเอียดมาอัปเดต
บอกลาครั้งสุดท้าย “พังฟ้าใส”
นางแสงเดือน เดินทางมาจุดที่พบซากช้างทั้ง 2 เชือกโดยบอกกอดลา “พังฟ้าใส” ช้างอายุ 16 ปี และพลายทอง ช้างตาบอดอายุ 40 ปีทั้ง 2 เชือกที่ตายจากการถูกน้ำป่าซัดไกลจากศูนย์ถึง 5 กม.พบซากติดอยู่กับเศษต้นไม้ที่หักโค่น โดยระบุว่าน้ำมาเร็วและแรงไม่ทันตั้งตัว ไม่สามารถเปิดประตู หรือปลดโซ่ได้ทัน
ขณะที่สภาพภายในอาคารบริการ และต้อนรับนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยดินโคลนทับถม ทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในอาคารได้รับความเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ อาคารห้องพักบุคลากร ห้องพักรับรองอาสาสมัคร และอาคารสำนักงานทั้งหมด โรงเลี้ยงและดูแลสัตว์ ห้องเก็บอาการสัตว์ ตลอดจนกล้วยและพืชผักผลไม้ที่เตรียมไว้เป็นอาหารช้าง ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังจากถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเมื่อสองวันก่อน
พระราชทานหญ้าช่วยช้าง 100 ตัว
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์เร่งขนส่ง "หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน" สมทบกับหญ้าจากศูนย์บำรุงพันธุ์สัตว์เชียงใหม่ ศูนย์อาหารสัตว์ ลำปาง ชัยนาท ปากช่อง เพชรบูรณ์ และพิจิตร รวมหญ้าสดและหญ้าแห้ง 37 ตัน จะนำส่งศูนย์บริบาลช้างในวันที่ 7 ต.ค.นี้
โดยกรมปศุสัตว์จะสนับสนุนต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และจนกระทั่งมั่นใจว่า ศูนย์บริบาลช้างจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารสัตว์
โดยหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานที่ส่งมอบให้เป็นหญ้าเนเปียร์ สามารถให้กินได้ทั้งช้าง วัว ควาย แพะ และแกะ ส่วนสัตว์เลี้ยงได้แก่ สุนัขและแมวที่มีจำนวนมาก เบื้องต้น นำส่งอาหารสัตว์แล้วและจะสนับสนุนเพิ่มเติมต่อไป
พร้อมทั้งจัดทีมสัตวแพทย์เข้าช่วยรักษาสัตว์ป่วย และดูแลสุขภาพสัตว์ โดยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า อุณหภูมิในภาคเหนือจะเริ่มลดลง สัตว์ที่เครียดจากการประสบภัยน้ำท่วม อาจเกิดภาวะเครียด เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจึงมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ง่าย