วันนี้ (28 มิ.ย.2567) มีการประชันวิสัยทัศน์ระหว่าง "โจ ไบเดน" ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต และ "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นว่าที่คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยจัดขึ้นในรัฐจอร์เจีย เวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นแอตแลนตา ตรงกับเวลาในประเทศไทย 08.00 น. ซึ่งการดีเบตระหว่างคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีนี้จัดเร็วที่สุดเท่าที่เคยจัดมา ในขณะที่ทั้งคู่ยังไม่ได้เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ
ศึกประชันวิสัยทัศน์ครั้งนี้จัดโดยสถานีโทรทัศน์ CNN การเตรียมการเกิดขึ้นล่วงหน้ามาพักใหญ่ โดยมีกองทัพสื่อมวลชนรอเกาะติดอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้กลางเดือน พ.ค. ว่าที่คู่ชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีตกลงกันว่าจะขึ้นเวทีโต้อภิปราย 2 รอบ คือวันนี้ 27 มิ.ย.ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ
ส่วนรอบ2 จะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ย. โดยมีสถานีข่าว ABC เป็นผู้จัดงาน แต่ยังไม่มีการตกลงกันถึงดีเบตรอบที่ 3 เหมือนกับการเลือกตั้งปีอื่นๆ ที่ผ่านมาที่มักจัดในเดือน ต.ค. ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการประชันวิสัยทัศน์ถูกจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งของคู่นี้ แต่กติกาต่างไปจาก 4 ปีก่อนโดยสิ้นเชิง
CNN เตรียมการดีเบตครั้งแรกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งปี 2024 ที่สตูดิโอของ CNN ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย
สำนักข่าว CNN เปิดเผยว่า รูปแบบเวทีดีเบตปีนี้กินเวลา 90 นาที ไบเดน-ทรัมป์ เลือกยืนหลังโพเดียม ไม่นั่ง ไม่มีผู้ชม แต่ที่น่าสนใจคือว่าที่ตัวแทนพรรคทั้ง 2 คนจะยืนห่างกัน 8 ฟุต หรือไม่ถึง 2 เมตรครึ่ง ซึ่งถือว่าใกล้กันมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเวทีดีเบตเมื่อปี 2020
นอกจากนี้ ไบเดนจะยืนทางขวาของจอ แต่ทรัมป์จะได้พูดเป็นคนสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดน่าจับตาอย่างยิ่งเพราะทั้งทรัมป์และไบเดนไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกันในลักษณะนี้มา 4 ปีเต็ม อีกทั้งการดีเบตครั้งที่ผ่านมามีความดุเดือด มีทั้งประโยคเด็ด การตะโกนแย่งกันพูดต่างๆ นานา ดังนั้นระหว่างประชันวิสัยทัศน์ ไมค์จะเปิดเฉพาะให้คนที่พูด ส่วนอีกคนถูกปิดไมค์ไว้ และเมื่อคนแรกตอบคำถามแล้ว อีกคนก็จะได้โอกาสโต้กลับ
ส่วนผู้ดำเนินรายการของ CNN ในครั้งนี้คือผู้ประกาศข่าว Jake Tapper และ Dana Bash ทำหน้าที่พิธีกร 2 คน ซึ่งในห้องจะมีเพียงพิธีกร กับทรัมป์และไบเดนเท่านั้น ไม่มีผู้ชม โดยตลอดการดีเบต 90 นาที คู่ชิงไม่ได้รับอนุญาตให้เตรียมเอกสาร โพยหรือโน้ตใดๆ ขึ้นไป แต่ทีมงานจะเตรียมปากกาให้ 1 แท่ง กระดาษโน้ตและน้ำดื่ม
ครั้งนี้ถือว่าแปลกใหม่ เพราะเป็นครั้งแรกที่ไม่ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการจัดการประชันวิสัยทัศน์ และระหว่างดีเบต 90 นาทีที่มีพักโฆษณา 2 ครั้ง คู่ชิงจะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยหรือปรึกษาทีมงานช่วงพักโฆษณา
โดนัลด์ ทรัมป์ และ โจ ไบเดน ดีเบตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020
ย้อนมองทิศทางนโยบาย "ไบเดน-ทรัมป์"
นักวิเคราะห์มองว่า ดีเบตวันนี้จะขยี้ให้เห็นถึงความพร้อมของคู่ชิง โดยเฉพาะเรื่องสติสัมปชัญญะที่ต่างฝ่ายต่างเผชิญข้อครหาว่าหลงลืมบ้าง เลอะเลือนบ้าง ด้วยวัย 78 ปีของทรัมป์ และวัย 81 ปีของไบเดน
สำหรับภาพรวมเรื่องนโยบายของคู่ชิงแบบคร่าวๆ ด้านเศรษฐกิจ ไบเดนมี Bidenomics สร้างเศรษฐกิจจากรากฐาน ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด เพิ่มโอกาสการทำงาน
ข้อมูลทางเศรษฐกิจชี้ว่า รัฐบาลไบเดนประสบความสำเร็จในการสร้างงานและทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ในขณะเดียวกันชาวอเมริกันต้องเจอปัญหาเงินเฟ้อและราคาค่าครองชีพที่สูงโดยเฉพาะเรื่องอาหารและพลังงาน ขณะที่ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะเข้ามาลดภาษี ลดข้อกำหนดข้อบังคับต่างๆ
นโยบายผู้อพยพ ไบเดนให้คำมั่นว่าจะใช้วิธีการที่มีมนุษยธรรมมากขึ้น แต่ก็เดินหน้าจำกัดจำนวนการเข้าเมืองของผู้อพยพและส่งกลับอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นปัญหาที่กำลังกวนใจชาวอเมริกัน ด้านทรัมป์ ระบุชัดว่าจะกลับมาใช้นโยบายเดิมคือการปิดพรมแดนและจะปฏิบัติการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้จะยกเลิกสิทธิ์การเป็นพลเมืองโดยอัตโนมัติของลูกของผู้อพยพที่เกิดในสหรัฐฯ
นโยบายต่างประเทศ ไบเดนจะผลักดันสภาคองเกรสหนุนงบสนับสนุนยูเครนต่อเนื่อง เพราะชัยชนะของรัสเซียจะเป็นภัยต่อยุโรปและจะส่งสัญญาณให้จีนเหิมเกริมมากขึ้น ส่วนทรัมป์พูดไว้เมื่อเดือน ก.พ.ว่าจะเปิดทางให้รัสเซียทำอะไรก็ได้กับประเทศนาโตที่ไม่ทำตามเงื่อนไขด้านการเงิน คือการทุ่มงบประมาณกลาโหมให้ได้ถึง 2%
ส่วนสงครามในกาซา ไบเดนยังหนุนหลังอิสราเอลเหนียวแน่น ทั้งส่งอาวุธและความช่วยเหลือต่างๆ แต่ก็วิจารณ์การทำศึกของเนทันยาฮู ขณะที่ทรัมป์มักแสดงออกหนุนหลังอิสราเอลเหนียวแน่นเช่นกัน แต่ล่าสุดกดดันให้อิสราเอลยุติสงครามและเอาชนะฮามาสให้ได้โดยเร็ว เพราะกำลังเสียภาพพจน์จากสงครามที่เกิดขึ้น
และเรื่องยุติตั้งครรภ์ ไบเดนกล่าวหาทรัมป์ว่าเป็นผู้คุกคามสิทธิการเจริญพันธุ์ ให้คำมั่นจะให้สิทธิผู้หญิงกำหนดอนาคตตัวเองหากชนะเลือกตั้ง ส่วนทรัมป์ ด้านหนึ่งย้ำว่าตัวเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคำวินิจฉัยประวัติศาสตร์ของศาลสูงสหรัฐฯ ที่มีผลเพิกถอนสิทธิ์ยุติการตั้งครรภ์ของหญิงเมื่อ 2 ปีก่อน แต่เคยวิจารณ์มาตรการสุดโต่งในหลายรัฐเช่นกัน
อ่านข่าว
I'm a Rockstar! ลิซ่าเปิดตัวซิงเกิลล่าสุด 27 นาทีทะลุล้านวิว