วันนี้ (27 มิ.ย.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามสถานการณ์การวิจัยและพัฒนาข้าวโพด GMO ของจีน
พบว่า จีนประสบความสำเร็จในการวิจัยดังกล่าวครั้งแรกในปี 2540 โดยวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดที่ต้านทานแมลงศัตรูพืชได้ และมีการทดลองภาคสนาม เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของพืช GMO รวมทั้งเริ่มเปิดให้นำเข้าข้าวโพด GMO มาตั้งแต่ ธ.ค.2563
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์
แม้ว่าปัจจุบันผลผลิตข้าวโพดภายในประเทศของจีนยังไม่เพียงพอกับความต้องการ จีนยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้า แต่การวิจัยและพัฒนาข้าวโพด GMO ของจีน จะเป็นการเพิ่มปริมาณข้าวโพดภายในประเทศลดการนำเข้าในอนาคต
ผอ.สนค. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาจีนได้แสวงหาเความมั่งคงด้านอาหาร และพึ่งพาตนเองด้านธัญพืช ลดการใช้ยาฆ่าแมลง ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการเพาะปลูก ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการพัฒนาด้านการเกษตรภายในประเทศที่สำคัญตามแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 ของจีน
ล่าสุด จีนออกประกาศรายการข้าวโพด GMO 37 สายพันธุ์ จาก 24 บริษัทและหน่วยงานวิจัย ที่สามารถนำไปเพาะปลูกได้ใน 8 มณฑลของจีน ประกอบด้วย มองโกเลียใน กานซู เหอเป่ย จี๋หลิน เหลียวหนิง กว่างซี เสฉวน และยูนนาน (ปี 2563 อนุญาตให้ปลูกได้ใน 2 มณฑล ปี 2566 เพิ่มเป็น 5 มณฑล)
ซึ่งใน 4 มณฑล (จี๋หลิน มองโกเลียใน เหลียวหนิง และเหอเป่ย) เพาะปลูกข้าวโพด GMO ได้ในทุกพื้นที่ จึงคาดว่า จีนจะมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพด GMO เพิ่มขึ้นเป็น 4.17–6.25 ล้านไร่ ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1.67 ล้านไร่ ในปี 2566
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาชนบทและภาคการเกษตร โดยเฉพาะข้าวโพดและถั่วเหลือง บนพื้นฐานการวิจัยพัฒนา และการนำเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้ในการผลิตพืชอาหารที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหาร โดยมีเป้าหมายในการยกระดับผลผลิตธัญพืชให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ
นโยบายของจีนเน้นย้ำว่า จีนจะพัฒนาการใช้ข้าวโพด GMO เพื่อความมั่นคงทางอาหาร และยกระดับผลผลิตในประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้าธัญพืชแสดงให้เห็นถึงการเปิดกว้างการใช้ข้าวโพด GMO เชิงพาณิชย์ของจีน
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่การเพาะปลูกข้าวโพด GMO ของจีนจะมีไม่ถึงร้อยละ 1 ของพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดทั้งประเทศ โดยพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดทั้งหมดของจีน ปี 2566 อยู่ที่ 276.37 ล้านไร่ และจากรายงานของ Foreign Agricultural Service (FAS) คาดการณ์ว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพด GMO ของจีนในช่วงปี 2568–2570 จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 10–15 ต่อปี
อย่างไรก็ตามแม้ว่าข้าวโพดจะไม่ใช่สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย แต่ข้าวโพดเป็นสินค้าทดแทนมันสำปะหลัง ที่สามารถนำไปใช้ในการผลิตอาหารสัตว์และเอทานอล ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นอันดับหนึ่งของโลก และจีนก็เป็นตลาดมันสำปะหลังที่สำคัญของไทย
จีนผลิตและวิจัยข้าวโพด GMO
การที่จีนจะหันมาใช้ข้าวโพด GMO เพื่อการเพิ่มผลผลิตภายในประเทศให้เพียงพอกับความต้องการ อาจกระทบต่อความต้องการมันสำปะหลัง
ดังนั้น จึงควรหาแนวทางเพื่อสอดรับกับสถานการณ์ดังกล่าวที่มีแนวโน้มอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ลดการพึ่งพาตลาดส่งออกเพียงไม่กี่ตลาด ซึ่งไทยมีตลาดจีนเป็นตลาดส่งออกมันเส้นที่สำคัญมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ปี 2566 จีนเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวโพด (HS Code: 100590) อันดับ 1 ของโลก ปริมาณ 27.14 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 9,017.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.99 โดยนำเข้าจากบราซิลและสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตข้าวโพดซึ่งใช้พันธุ์ข้าวโพด GMO ที่สำคัญของโลก
ขณะเดียวกันจีนมีผลผลิตข้าวโพดในประเทศรวม 288.84 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 และเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2563 (ปี 2563 จีนมีผลผลิตข้าวโพด 239 ล้านตัน) ซึ่งในปี 2566 จีนมีความต้องการใช้ข้าวโพดภายในประเทศอยู่ที่ 293 ล้านตัน ส่วนในปี 2567/68 คาดว่าจีนจะมีปริมาณผลผลิตข้าวโพดอยู่ที่ 296 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4
โดยคาดการณ์ปี 2567 ตลาดข้าวโพด GMO ทั่วโลก มีมูลค่า 264,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าระหว่างปี 2566–2573 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 5 หรือจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 384,200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 อุปทานที่เพิ่มขึ้นของข้าวโพด GMO
จากผู้ผลิตรายใหม่ ๆ อย่างจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวโพดที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน อาจผลักดันให้ราคาข้าวโพดทั่วโลกปรับตัวลดลงในอนาคต
อ่านข่าว: ทองคำเช้านี้ ร่วงอีก 150 บาท นักลงทุนจับตาดีเบต "ไบเดน-ทรัมป์"
"บิ๊กโจ๊ก" ลั่นแค่วาทกรรมนายกฯ บอกจะให้ความเป็นธรรม
ความหวังคนสิ่งแวดล้อม "จิระศักดิ์-ชีวะภาพ" นั่งว่าที่ สว.ชุดใหม่