วันนี้ (11 มิ.ย.2567) ชาวบ้านห้วยหินลาดใน หมู่ 7 ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย นำผู้สื่อข่าว ลัดเลาะเข้าพื้นที่ป่า ที่ห่างออกไปท้ายหมู่บ้านกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ทำไร่หมุนเวียน
ชาวบ้านนำไปดูพื้นที่ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ในไร่หมุนเวียน ตามความเชื่อของชุมชนกะเหรี่ยง หรือ จื่อ ลอ มวา ข่อ ที่ใช้สื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติเพื่อขอให้ฝนตก ให้การเพาะปลูกราบรื่น และช่วยปกป้องรักษาป่า ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
ตัวแทนชาวบ้านระบุว่า พิธีกรรมดังกล่าวถูกทำลาย และยังมีถังน้ำพลาสติกขนาดความจุ 200 ลิตร มีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมเป็นแผลยาวนับ 10 นิ้ว และยังมีอุปกรณ์การเกษตรถูกทำลายอีกหลายรายการ
แกนนำเยาวชนในพื้นที่บอกว่า วันเกิดเหตุเห็นชายฉกรรจ์ 3 คน สวมชุดสีดำ มีเครื่องหมายของหน่วยงานหนึ่งติดอยู่ และมีชื่อติดบริเวณอกเสื้อ มีผ้าปิดคลุมใบหน้า พร้อมอาวุธปืนยาว 1 กระบอก ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามาในบริเวณหมู่บ้าน
ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่า เป็นการเข้ามาลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ หลังกลุ่มชายดังกล่าวกลับไป ชาวบ้านได้เข้าไปยังบริเวณไร่หมุนเวียน พบความเสียหายเกิดขึ้น แต่ที่สำคัญคืออุปกรณ์ในการประกอบพิธีกรรมของชนเผ่าถูกทำลาย ส่งผลต่อสภาพจิตใจ
ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้านห้วยหินลาดใน ระบุว่า โดยปกติการเข้าพื้นที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ จะแจ้ง ให้ผู้ใหญ่บ้านทราบทุกครั้ง ถึงวัตถุประสงค์ในการเข้ามา เนื่องจากเจ้าของแปลงทำกินจะสามารถนำไปตรวจสอบและยืนยันลักษณะการทำกินได้ แต่ครั้งนี้กลับไม่มีการแจ้งให้ทางชุมชนทราบแต่อย่างใด
อยากให้กลุ่มชายดังกล่าว หรือทางหน่วยงานต้นสังกัด ออกมาแสดงตน หรือ ให้ความกระจ่างกับชาวบ้าน เนื่องจากคนในหมู่บ้านอยู่กันอย่างหวาดระแวง
สำหรับ หมู่บ้านห้วยหินลาดใน เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่คนอยู่กับป่ามาหลายชั่วอายุคน และเป็นพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษตามมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าโป่งเหม็น แม่ปูน แม่โท ที่ผ่านมาชาวบ้านอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยป่าในการดำรงชีพ และช่วยกันปกป้องรักษาพื้นที่ป่า
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ช่วงเย็นวันที่ 4 มิ.ย.2567 ชาวบ้านพบเห็นชายฉกรรจ์ 3 คน สวมชุดสีดำ มีผ้าปิดคลุมใบหน้า พร้อมอาวุธปืนยาว 1 กระบอก ขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านชุมชนไปยังพื้นที่ป่าท้ายหมู่บ้าน ต่อมาพบว่า พิธีกรรมถูกทำลาย และมีอุปกรณ์การเกษตร ถังบรรจุน้ำ ได้รับความเสียหาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้มูลค่าทรัพย์สินจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่สร้างความหวาดกลัวและหวาดระแวงให้กับชาวบ้าน และที่สำคัญส่งผลต่อสภาพจิตใจชาวบ้านในพื้นที่ ถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไข อาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐได้
ต่อมา วันที่ 7 มิ.ย.2567 ตัวแทนชาวบ้านกว่า 10 คน ได้ยื่นหนังสือให้กับผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เวียงป่าเป้า แล้ว
ล่าสุด พ.ต.อ.นฤทธิ์ เกิดดี ผกก.สภ.เวียงป่าเป้า เตรียมหารือกับนายอำเภอเวียงป่าเป้า และผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง และในวันที่ 12 มิ.ย.ทั้ง ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะลงพื้นที่พบปะพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย
อ่านข่าว : ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีขับรถชน นศ.แพทย์ มข.จำคุก 2 ปี ชดใช้ 13 ล้านบาท