ส่อเค้าบานปลายเป็นเรื่องใหญ่มาตั้งแต่วันแสดงวิสัยทัศน์ งาน “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” ของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่องกฎหมายให้แบงก์ชาติเป็นอิสระจากรัฐบาล จึงเป็นปัญหาแก้เศรษฐกิจประเทศ
เนื่องจากจู่ๆ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็สวมบทบาทนักเศรษฐศาสตร์วิพากษ์แบงก์ชาติโดยการก้มอ่านสปีชในแท็บเล็ตที่ไม่รู้ใครเขียนให้ ด้วยสีหน้าท่าทางเอาจริงเอาจัง ทั้งที่ไม่ได้เรียนจบหรือไม่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มากพอจะวิพากษ์เรื่องสำคัญและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างนี้
อ่านข่าว : "เพื่อไทย" ชี้แบงก์ชาติ ควรรับฟ้งรอบด้าน ยันรัฐบาลไม่แทรกแซง
ท่ามกลางแกนนำและ สส.ของพรรคเพื่อไทยทั้งหน้าใหม่ หน้าเดิม และระดับอาวุโสที่นั่งกันสลอนหน้าเวที โดยไม่มีใครเอะใจ หรือสะกิดว่า สมเหตุสมควรแค่ไหน เพราะเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาค หรือเศรษฐกิจการเงิน ไม่ใช่เรื่องที่นึกอยากจะพูดก็พูดเพื่อหวังผลทางการเมืองเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่นักการเมืองชอบทำ
ไม่รู้ว่านายพิชัย ชุณหวชิร หนึ่งในมือบริหารอาชีพด้านเศรษฐกิจ อดีตกรรมการแบงก์ชาติ และเป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่ป้ายแดง กับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จบปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโท สาขาการเงิน จากสหรัฐ จะได้เห็นสปีชดังกล่าวก่อนหรือไม่ เพราะกว่าจะเห็นนายกฯ ออกโรงโดดป้อง “อุ๊งอิ๊ง” ก็ถัดมา 2 วัน ไล่เลี่ยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ ที่อ้างว่าเป็นการสะท้อนปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน ไม่ได้บีบหรือกดดันแบงก์ชาติ หรือคิดจะเปลี่ยนตัวผู้ว่าฯแบงก์ชาติ
อ่านข่าว : "ผมถูกจ้างมาให้กังวล" ตัวตนผู้ว่าแบงก์ชาติ "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ"
เพราะวิสัยทัศน์จากสปีชดังกล่าวถูกวิพากษ์โต้กลับจากกูรูด้านเศรษฐกิจและนักเศรษฐศาสตร์ของจริงอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องบทบาทความสำคัญของแบงก์ชาติต่อระบบเศรษฐกิจและนโยบายด้านการเงินของประเทศ รวมทั้งเรื่องเจตจำนงให้แบงก์ชาติเป็นธนาคารกลางของประเทศ ต้องมีความเป็นอิสระเหมือนธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ยกเว้นประเทศเผด็จการ
ปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้ร้อนแรงต่อเนื่องท่ามกลางกระแสผู้ว่าแบงก์ชาติจะถูกเด้ง และการผุด #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ อย่างต่อเนื่อง หลังจากผู้ว่าฯแบงก์ชาติไม่เห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล และต่อเนื่องเรื่องต้องการให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย ด้วยข้ออ้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อไม่ได้รับการสนองตอบ ก็หันไปเจรจาโดยตรงกับสมาคมธนาคารไทยและธนาคารของรัฐให้ลดดอกเบี้ยแทน
อ่านข่าว : นายกฯ ลั่นไม่เคยคิดปลด ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
กระทั่งนายเศรษฐาต้องออกโรงมาสยบเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อวันจันทร์ ครั้งนี้ ยังพ่วงปฏิเสธเรื่องแก้กฎหมายแบงก์ชาติ เพื่อลดความอิสระของแบงก์ชาติด้วย อันเป็นผลจากแนวทางจะปลดผู้ว่าแบงก์ชาติอาจทำไม่ง่าย ในมุมมองของนักกฎหมาย
แม้จะเคยมีผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ถูกปลดมาแล้ว 4 คน แต่กฎหมายแบงก์ชาติปัจจุบัน การจะปลดผู้ว่าแบงก์ชาติได้ ต้องเป็นมติ ครม.ให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีคลัง ด้วยเหตุผลมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง หรือทุจริตต่อหน้าที่ หรืออีกกรณี คือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของกรรมการหรือบอร์ดแบงก์ชาติ ด้วยเหตุผล บกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสรรหาเหตุผลมาอธิบายข้อกล่าวหาดังกล่าว
การเตรียมแก้ พ.ร.บ.แบงก์ชาติ จึงถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นทางเลือกสุดท้าย แม้จะขัดแย้งกับหลักสากลทั่วโลก ที่กำหนดให้ธนาคารกลางมีความอิสระ แยกการใช้อำนาจออกจากฝ่ายการเมือง
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ หากรัฐบาลต้องการทำจริง ก็มีโอกาสทำได้ เพราะขนาดเรื่องคนชั้น 14 ไม่ต้องติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว ยังทำได้ โดยข้ออ้างถูกต้องตามกฎหมายและกฎกระทรวง ก็ยังทำมาแล้ว
เพียงแต่เรื่องนี้ อาจต่างไปจากเรื่องนักโทษเทวดา เพราะเป็นเสมือนการรังแกคนดี ที่ประกาศรักษาความเป็นอิสระและคงความสำคัญของแบงก์ชาติอยู่เหนือความต้องการหรือแรงกดดันทางการเมือง
ใครจะลุแก่อำนาจ เดินหน้าต่อเกินเส้นแบ่งที่ควรจะเป็น คงต้องขบคิดให้จงหนัก
อ่านข่าว :
ครม.ใหม่เศรษฐา1/1 เข้าทำเนียบวันแรก-ถ่ายภาพหมู่
หลายฝ่ายโต้กลับ "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์ "ธปท."อุปสรรคพัฒนาประเทศ?
"มาริษ" ชี้ "ทักษิณ" คุยเมียนนาไม่โยงรัฐบาล อุบ "ยิ่งลักษณ์" ประสานกลับไทย