กรณีการตรวจสอบการครอบครองสิงโตนั่งรถหรูในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งทำให้โลกออนไลน์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกหลายเคส วันนี้ (25 ม.ค.256) เพจ pattayawatchdog ได้โพสต์ภาพสิงโตหลุด พร้อมระบุข้อความว่า ของแทร่ เพื่อนบ้านผวา สิงโตตัวใหญ่หลุดออกมาเดินบนถนน หลายครั้งแล้ว แจ้งตำรวจเรื่องเงียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ชลบุรี) และหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีชาวบ้านร้องเรียน พบสิงโตขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว หลุดออกจากบ้าน เดินอยู่กลางถนน ทำให้ชาวบ้านละแวกดังกล่าวกังวลและหวาดกลัว
จากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบสิงโต 2 ตัว และสุนัขร็อตไวเลอร์ 2 ตัว ถูกล่ามโซ่อยู่ภายในบ้าน
ทั้งนี้เจ้าของสิงโต ให้ข้อมูลว่านำสิงโตทั้ง 2 ตัว มาเลี้ยงตั้งแต่อายุประมาณ 45 วัน จนขณะนี้ทั้ง 2 ตัวมีอายุ 10 เดือน ย้ายจากบ้านที่ อ.สัตหีบ มาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ได้ 6 เดือนแล้ว
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโซเชียลร้องเรียน
สิงโตหลุด-ไม่แจ้งครอบครอง
พร้อมยอมรับว่า สิงโตเคยหลุดออกมาด้านนอก เนื่องจากประตูรั้ว ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติเปิดเอง แต่ผู้ดูแลได้รับนำกลับเข้าบ้าน ก่อนจะใช้โซ่ล็อกที่ประตูไว้ เพื่อป้องกันประตูอัตโนมัติเปิดเอง
ส่วนลักษณะนิสัยของสิงโตทั้ง 2 ตัว ไม่มีท่าทีดุร้าย และยอมให้บุคคลอื่นจับตัวได้ แต่ผู้ดูแลอยู่ด้วยเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านบางคนก็ชอบ บางคนก็กลัว
ขณะนี้ได้ประสานไปยังนายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เพื่อตรวจสอบเอกสารว่าแจ้งครอบครองถูกต้องหรือไม่
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจสอบสิงโตในบ้านได้ เนื่องจากต้องรอขออนุมัติหมายค้นจากศาลก่อน
มีรายงานว่าสิงโต 1 ตัวมีเลขไมโครชิพไม่ตรงกับที่แจ้งในเอกสารจากต้นทาง รวมทั้งไม่พบว่ามีเอกสารการครอบครองด้วย ทำให้อาจต้องอายัดสิงโตไว้ตรวจสอบก่อน
ภาพคนต่างชาติพาสิงโตนั่งรถเล่น แถวพระตำหนัก พัทยา (ภาพ PattayaWatchdog )
แห่แชร์ต่างชาติพาสิงโตนั่งรถหรูชิลริมหาด
ขณะที่โลกออนไลน์ยังได้ตั้งคำถามเรื่องการนำลูกสิงโต ออกมาเที่ยวในสถานที่ต่างๆของพัทยา ซึ่งส่วนใหญ่พบเป็นชาวต่างชาติขับรถหรู ทำให้มีการตั้งคำถามว่าชาวต่างชาติที่มาอยู่ในไทยสามารถครอบครองสัตว์ป่าดุร้ายได้หรือไม่
นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุ สัญญา (ไซเตส) กล่าวว่า ขณะนี้กรมอุทยานฯ จะโฟกัสตรวจสอบสิงโต ซึ่งเป็น 1 ใน 10 สัตว์ป่าควบคุม (ก) พบมีจำนวน 38 รายจำนวน 224 ตัว การแจ้งครอบครองสัตว์ป่าควบคุมในบัญชีไซเตสเมื่อปี 2566 โดยจำเป็นต้องควบคุมให้เข้มงวดมากขึ้น หลังเริ่มพบปัญหาเช่นกรณีนำมานั่งรถหรูเที่ยว
การครอบครอง สิงโตต้องพิจารณาความเข้มข้นในกลุ่มบุคคลทั่วไป เพราะสิงโตไม่ใช่สุนัข ต้องเข้มข้น เพราะถือว่าเป็นสัตว์ดุร้ายไม่น่าจะใช่สัตว์เลี้ยงตามบ้าน โดยจะตรวจสอบทั้งหมดเพื่อประกอบการให้ใบอนุญาตครอบครอง
นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุ สัญญา (ไซเตส)
อ่านข่าวอื่นๆ
ศาลปกครองยกฟ้อง "สปน.-ไอทีวี" ปมสัมปทาน 2.8 พันล้าน
เปิด 10 อาชีพในฝัน เด็ก Gen Z “วิศวกรไซเบอร์” ยืน 1