วันนี้ (25 ธ.ค.2566 ) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ประกอบด้วย ปตท., บางจาก , พีที , เอสโซ่ , ทีพีไอ , ซัสโก้ , เชลล์ , คาลเท็กซ์ และพี โอ ออยล์ เพื่อกำชับให้เข้มงวดตรวจสอบหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมันว่า ที่ประชุมได้มีมติร่วมกันในการตั้งค่าหัวจ่ายให้จ่ายน้ำมันมากกว่า 0 โดยเป็นมาตรการที่สมัครใจร่วมกัน หลังจากเกิดกรณีดรามา เติมน้ำมันได้ไม่เต็มลิตร โดยรมว.พาณิชย์ได้สั่งการให้กรมหารือร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกลาว เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังประชุมกับผู้ค้าน้ำมันทั้งหมด ได้แก่ ปตท. (PTT) บางจาก (BCP) พีที (PT) เอสโซ่ (ESSO) ทีพีไอ (TPI) ซัสโก้ (SUSCO) เชลล์ (SHELL) คาลเท็กซ์ (CALTEX) และ พี โอ ออยล์ (PO OIL)
นายวัฒนศักย์ กล่าวอีกว่า ตามปกติเดิมการตรวจสอบรับรองหัวจ่ายน้ำมันจะมีการตรวจทุก 2 ปี และมีการตั้งค่าอยู่ที่ 0 และในระหว่าง 2 ปี จะมีการตรวจสอบหัวจ่ายเป็นประจำ ตามรอบที่กำหนด และตรวจพิเศษในช่วงเทศกาล
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:
ดรามา “เติมไม่เต็มลิตร” ค้าภายในแจงไม่ผิด กม.ชี้ขาดเกินได้1%
จากนี้จะมีการตั้งค่าให้บวกขึ้นจาก 0 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจะมีการตรวจสอบซ้ำ หากตรวจแล้ว จ่ายน้ำมันเกิน ก็ถือว่าปกติ แต่ถ้าจ่ายน้ำมันขาด ติดต่อกัน 2 ครั้ง แม้จะอยู่ในค่ามาตรฐาน บวกลบไม่เกิน 1% ก็จะสั่งให้หยุดการใช้หัวจ่าย ต้องปรับปรุงให้ถูกต้อง และต้องตรวจรับรองใหม่
สายตรวจลงพื้้นที่ตรวจสอบหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมัน
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า การตรวจรับรองหัวจ่ายน้ำมัน จะมีการตั้งค่าไว้ที่ 0 และมีการซีลหัวจ่าย ผู้ค้าน้ำมันไม่สามารถแกะออกได้ ถ้าชำรุด หรือแกะออก จะมีความผิด แต่ตู้หัวจ่ายเป็นเครื่องจักร แม้ตอนไปตรวจพบว่าจ่ายน้ำมันเต็ม ไม่มีขาด แต่พอใช้ไปนาน ๆ อาจจะมีความเสื่อมของเครื่องจักร ทำให้จ่ายน้ำมันได้ขาดไปบ้าง และที่ขาดไปก็ไม่ได้ลดกว่าอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ตามที่กฎหมายกำหนด แต่หลังจากคุยกันครั้งนี้แล้ว ผู้ประกอบการยินดีที่จะตั้งค่าให้เกินกว่า 0 เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก
ส่วนหลักเกณฑ์ค่าความคาดเคลื่อนที่สามารถยอมรับได้ตามกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดชนิด และลักษณะของมาตรวัดของเหลว รายละเอียดของวัสดุที่ใช้ผลิต อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด และอายุคำรับรอง ที่กำหนดไว้ที่บวกลบไม่เกิน 1% นั้น จะมีการพิจารณาว่าควรจะปรับอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการชั่งตวงวัด ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน จะมีการพิจารณาก่อน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบตั้งแต่เดือน ส.ค.2566 ถึงปัจจุบันตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันแล้ว ประมาณ 14,000 แห่ง กว่า 180,000 หัวจ่าย พบว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 34 สถานี 281 หัวจ่าย ในจำนวนนี้เป็นกรณีที่ใช้หัวจ่ายน้ำมันที่สิ้นอายุเครื่องหมายคำรับรอง จำนวน 15 สถานี จำนวน 241 หัวจ่าย เป็นกรณีที่หัวจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อนเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด (ร้อยละ 1) จำนวน 19 สถานี จำนวน 40 หัวจ่าย
และเป็นการจ่ายน้ำมันเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น (คลาดเคลื่อนในด้านบวก) 14 สถานี 29 หัวจ่าย คิดเป็นร้อยละ 0.016 ของหัวจ่ายที่ตรวจสอบทั้งหมด และเป็นการจ่ายน้ำมันขาดจากปริมาณที่ควรจะเป็น (คลาดเคลื่อนในด้านลบ) 5 สถานี 11 หัวจ่าย คิดเป็นร้อยละ 0.006 ของหัวจ่ายที่ตรวจสอบทั้งหมด
กรมฯได้ผูกบัตรห้ามใช้ เพื่อไม่ให้สามารถใช้หัวจ่ายที่คลาดเคลื่อนนั้นต่อไปได้จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องและเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบให้คำรับรองใหม่แล้ว ส่วนกรณีที่เป็นการจ่ายน้ำมันขาดหรือคลาดเคลื่อนในด้านลบเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ได้ดำเนินคดีแล้วทุกราย
สำหรับโทษ กรณีที่สถานีบริการน้ำมันจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อนเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือกรณีใช้หัวจ่ายน้ำมันที่สิ้นอายุเครื่องหมายคำรับรอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีดัดแปลงหัวจ่ายเพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อน มีจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
อ่านข่าวอื่นๆ:
"ทองคำขาขึ้น"คาดปี 67 ฉุดไม่อยู่ แนะนักลงทุนถือยาวข้ามปี
สัญญาณบวก "สินค้าเกษตรขยายตัว" พณ.เร่งดัน ส่งออกเพิ่มปี 67
รัฐบาลกำชับผู้ประกอบการจัด "กระเช้าปีใหม่" ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค