วันนี้ (10 ต.ค.2566) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ณ เวลา 23.00 น. วานนี้ (9 ต.ค.) ขณะนี้มีแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ลงทะเบียนเพื่อขอเดินทางกลับประเทศ จำนวน 2,990 คน ขณะนี้รอว่าทางการอิสราเอลจะเปิดให้กองทัพอากาศไทย นำเครื่องบินเข้าไปรับคนไทยได้เมื่อใด เมื่อได้รับสัญญาณจะส่งเครื่องบิน C130 ประมาณ 6 ลำ รับได้เที่ยวละ 60 -65 คน Airbus A340 จำนวน 1 ลำ รับได้ประมาณ 100 คน
ขณะเดียวกันในภาวะฉุกเฉินนี้ อาจจะหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ว่า อาจต้องเช่าเครื่องบินเหมาลำจากประเทศอิสราเอล หรือสายการบินพาณิชย์อื่น ๆ เพื่อพาคนไทยกลับมาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลได้ย้ายแรงงานบางส่วนออกจากพื้นที่สู้รบกว่า 500 คน มาอยู่ในศูนย์อพยพที่ปลอดภัย จำนวน 2 ศูนย์ และทูตแรงงานประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้เข้าไปเยี่ยมแรงงานแล้วตามที่ทางการอิสราเอลจัดไว้ให้ โดยจะต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิดว่าเหตุการณ์แต่ละชั่วโมงมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
สั่งเร่งตรวจสอบเคส "แรงงาน" ถูกส่งขายต่อ
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าแรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกช่วยเหลือออกมาแล้ว แต่กลับถูกขายแรงงานต่อ นายพิพัฒน์ ยอมรับว่า ทราบข่าวนี้แล้ว และได้แจ้งไปยังทูตแรงงานประจำประเทศอิสราเอลให้ช่วยตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมกับประสานสถานทูตไทยว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสถานการณ์ลำบาก จึงต้องรีบดำเนินการและขอความร่วมมือจากรัฐบาลอิสราเอลด้วย
ส่วนแรงงานไทยที่ประสานมายังทางการไทย แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เช้าวันนี้จะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว
สำหรับกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้รัฐบาลรองรับเรื่องงานในประเทศอิสราเอล เพราะบางคนยังไม่อยากกลับไทยนั้น นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า ได้สื่อสารไปตั้งแต่แรกว่ากระทรวงแรงงานพร้อมที่จะรับแรงงานกลับมาจากอิสราเอล แต่ส่วนสำคัญคือความกังวลของหลายคนว่าหากกลับมาแล้วจะไม่ได้กลับไปทำงานอีก ทางกระทรวงแรงงานได้ประชุมและหารือแล้วว่า จะพยายามหารือและประสานงานกับนายจ้างที่อิสราเอล รวมถึงเอเจนซีว่าเมื่อเหตุการณ์สงบจะขอพาแรงงานไทยกลับไปทำงาน
รมว.แรงงาน ยืนยันว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับมายังไทย รัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด ส่วนกรณีจะเดินทางกลับไปทำงานหลังสถานการณ์สงบนั้น ทางกระทรวงแรงงานจะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะหากองทุนใด อาจต้องของบประมาณจากรัฐบาล เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทำให้คนที่เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วเสียโอกาสในการทำงาน
"งบประมาณที่ใช้สำหรับอพยพคนไทย ยอมรับว่าจริง ๆ แล้วไม่มี แต่ก็ต้องหาเพิ่ม สุดท้ายหากไม่มีจริง ๆ ก็ต้องใช้จากงบกลาง ส่วนงบประมาณที่จะส่งกลับไปทำงานที่อิสราเอลเป็นปัญหาที่กระทรวงแรงงานต้องดูแลช่วยเหลือ อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง"