ไม่พลิกโผชื่อของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เจ้าของฉายามือปราบสายธรรมะ ได้ผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ถือเป็นคนที่ 14 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หลังจากรอคอยกันมา 1 เดือนเต็มกับ ศึกชิงบัลลังก์สีกาสี ที่มีแคนดิเดต 4 รายชื่อปรากฎผ่านสื่อมาตลอดเดือนที่ผ่านมา แทน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้
หลังก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนเคาะรายชื่อ เพื่อให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนใหม่ ในฐานะประธานการประชุมข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้ทำหน้าที่คัดเลือกเอง
ท่ามกลางความว้าวุ่น หลังปฏิบัติการช้างชนช้าง หญ้าแพรกแหลกราน กรณีการเข้าตรวจค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะแคนดิเดต 1 ใน 4 รายชื่อ และถือเป็นเบอร์ 2 ลำดับอาวุโส จนเจ้าตัวเอ่ยว่าเป็นการดิสเครดิตและการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จนเกิดกระแสข่าวลือสะพัดว่า อาจถึงขั้นต้องเลื่อนการประชุม “ก.ตร.” จนถึงให้ถอนวาระตั้ง ผบ.ตร.ออกไปก่อน เพื่อเปิดทางให้เคลียร์ข่าวฉาวที่เกิดขึ้น
อ่านข่าว "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" ผงาด ผบ.ตร.คนที่ 14
แถมในช่วงเช้าตำรวจจอมแฉ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ยังเดินทางมายื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา เพื่อขอให้เลื่อนพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 14 ออกไปก่อนโดยทิ้งท้ายให้พิจารณาจากลำดับอาวุโส ตามความรู้ความสามารถ พร้อมแนะให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ อาวุโสลำดับ 1 นั่งรักษาการ ผบ.ตร.พร้อมทิ้งท้ายให้คิดกันต่อ
ตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่ใช่ตำแหน่งต่างตอบแทน แต่นายกรัฐมนตรีควรจะตอบแทนประชาชนและสังคม
อ่านข่าว ลุ้น ผบ.ตร.คนใหม่ เศรษฐาเคาะเลือกผู้ท้าชิง 4 รายชื่อ
เรียก 6 ก.ตร.ถกเครียดก่อนเลื่อนตั้งผบ.ตร.
ก่อนการประชุม ก.ตร.รอบนี้ มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เรียก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ รศ.ประทิต สันติประภพ และศ.ศุภชัย ยาวะประภาษ หารือนอกรอบที่ห้องรับรอง โดยใช้เวลานาน ก่อนเข้าห้องประชุมอย่างเป็นทางการ
ขณะที่แคนดิเดต 4 นายกลับปรากฎตัวแค่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ส่วนพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจ รองผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่อยู่ระหว่างการเดินสายตั้งทีมทนายค้นบ้านไม่เป็นธรรม กลับไม่ปรากฎตัว
กระนั้นก็ตาม ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ในที่สุดข่าวลือที่สะพัดข้ามวัน ก็ได้ข้อสรุปเมื่อ ก.ตร.ที่มีนายเศรษฐา นั่งหัวโต๊ะครั้งแรกมีมติเห็นชอบ
ตั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ รองผบ.ตร.อาวุโสลำดับที่ 4 เป็นผบ.ตร.คนที่ 14
โดยที่ประชุม ก.ตร.มีมติ 9 ต่อ 2 โดยมีผู้ลงสิทธิลงคะแนน 16 คน โดยรอง ผบ.ตร. 4 คน ไม่มีสิทธิลงคะแนน เหลือ 12 คน นายกรัฐมนตรี งดออกเสียง ทำให้เหลือ 11 คน จึงมีมติเห็นชอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผบ.ตร.คะแนน 9: 2
"บิ๊กต่อ” คือใคร?
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ หรือ “บิ๊กต่อ” เจ้าของฉายามือปราบสายธรรมะ เกิดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2507 เป็นชาว จ.เพชรบุรี เป็นน้องคนเล็ก ของ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ และเลขาธิการพระราชวัง
จบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็น “สิงห์แดง” รุ่นที่ 38 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
โดยเริ่มต้นทำงานในเส้นทางตำรวจในตำแหน่ง “รองสารวัตร” กองกำกับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 จากนั้นโยกย้ายมาเป็นรองสารวัตร ที่กองปราบปราม แล้วขึ้นไปเป็น “สารวัตร” ที่ตำรวจท่องเที่ยว
ก่อนจะโยกกลับมาเป็นสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบฯ และขึ้นเป็นรองผู้กำกับ ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ และรองผู้บังคับการปราบปรามตามลำดับ
เรียกว่า ได้ขยับขึ้นนั่งเก้าอี้ “ผู้กำกับการ” เป็นครั้งแรกในปี 2559 ใช้เวลาเพียง 4 ปี กับ 3 เดือนเศษ ในการเลื่อนตำแหน่งจากผู้กำกับการ ยศ พ.ต.อ. มาเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” ยศ พล.ต.ท.
อ่านข่าว ผบ.ตร.สั่งย้าย 8 นายตำรวจ คนสนิท "บิ๊กโจ๊ก" ช่วยราชการ ศปก.ตร.
ฉายาใหม่ โจ๊กหวานเจี้ยบ เป็นโจ๊กอัคนี
ท่ามกลางศึกชิงเก้าอี้สีกาสียังฝุ่นตลบ แต่คดีค้นบ้านพัก "บิ๊กโจ๊ก" ก็ยังว้าวุ่นไม่หยุด ล่าสุดมีการตั้งทีมทนาย เพื่อทำคดีสู้ศึกค้นบ้านไม่เป็นธรรม โดยมอบหมายให้นายอนันต์ชัย ไชยเดช เป็นทนาย ที่เจ้าตัวถึงขั้นประกาศฟ้องกราวรูดบุคคลและสื่อที่พาดพิง
พร้อมตั้งฉายาให้ "โจ๊กหวานเจี้ยบ เป็นโจ๊กอัคนี" เพื่อจะได้เผาพระเพลิง เผาหมดทุกอย่าง ต้องแข็งแกร่ง พร้อมทั้งให้กำลังใจชีวิตของบิ๊กโจ๊กว่าแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ขณะที่ทีมลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก 8 นาย ล่าสุดก็มีคำสั่งโยกย้าย ให้ขาดจากตำแหน่งเดิมทั้งหมด โดยมาช่วยราชการ ศปก.ตร. หลังถูกออกหมายจับคดีเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์
ศึกสีกาสีกา ในรัฐบาลเศรษฐา 1 เพิ่งเริ่มต้น สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร