สภาผู้บริโภค ตรวจสอบความกว้างซอยสร้างคอนโด "ประดิพัทธ์ 23 "

วันนี้ (30 ส.ค.2566) สภาองค์กรของผู้บริโภค นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการก่อสร้างตึกสูงคอนโดมิเนียม ที่จะเกิดขึ้นในซอยประดิพัทธ์ 23 หลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่า จะสามารถก่อสร้างได้หรือไม่ และทำให้สภาองค์กรของผู้บริโภคลงพื้นที่ตรวจวัดความกว้างของถนนในวันนี้

นอกจากนี้ ยังมี นายสุรัช ติระกุล ผอ.สำนักงาน ควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม.  พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เครื่องมือวัดของทาง กทม.ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่วัดความกว้างภายในซอยประดิพัทธ์ 23 หลังพบว่าจะมีการสร้างคอนโดสูงในซอย ซึ่งประชาชนร้องเรียนว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง

กทม.ได้วัดตามจุดที่เจ้าหน้าที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค ชี้จุด จำนวน 5 จุด ตั้งแต่ปากซอยไปจนถึงบริเวณหน้าพื้นที่โครงการก่อสร้างคอนโด โดยพบว่า ทุกจุดมีความกว้างถนน ไม่ถึง 6 ม. โดยมีระยะกว้างตั้งแต่ 5.20 ม.ไปจนถึง 5.97 ม.โดยใช้เวลาวัดประมาณ 1 ชม.โดยเป็นการวัดจากทั้งกำแพงชนกำแพง , กำแพงชนเสาไฟฟ้าและกำแพงชนจุดตั้งประปาหัวแดง

เจ้าหน้าที่วัดความกว้างภายในซอยประดิพัทธ์ 23 หลังพบว่าจะมีการสร้างคอนโดสูงในซอย ซึ่งประชาชนร้องเรียนว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง

น.ส.สารี ระบุว่า หลังจากการวัดทำให้เห็นว่า ในซอยประดิพัทธ์ 23 จากปากซอยถนนใหญ่ ไปจนถึงหน้าโครงการที่สภาผู้บริโภค วัดทั้ง 5 จุด มีผลความกว้างของถนนไม่ถึง 6 ม.ในจุดที่ขอให้เจ้าหน้าที่ กทม.ช่วยวัด

เมื่อผลปรากฎเช่นนี้ แนวทางของ สภาองค์กรเพื่อผู้บริโภค ขอให้ กทม.ทบทวนการออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียม ที่จะต้องพิจารณาออกใบอนุญาตให้หลังจากนี้ เนื่องจากเป็นที่ชัดเจนว่า มีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อสร้างคอนโดฯ ในขนาดนี้ไม่ได้

เจ้าหน้าที่วัดความกว้างภายในซอยประดิพัทธ์ 23 หลังพบว่าจะมีการสร้างคอนโดสูงในซอย ซึ่งประชาชนร้องเรียนว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง

รวมถึง ขอให้ผู้ประกอบการลดขนาดก่อสร้างให้จำนวนห้องน้อยกว่า 200 ห้อง หรือน้อยกว่า 2,000 ตร.ม.เพื่อทำให้ถูกต้อง แต่หาก กทม.ยังมีแนวทางออกใบอนุญาต หรือ เอกชน ยังเดินหน้าก่อสร้าง ทาง สภาองค์กรของผู้บริโภค อาจตัดสินใจฟ้องคดี

นายสุรัช ติระกุล ผอ.สำนักงาน ควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม.

ขณะที่นายสุรัช ติระกุล ผอ.สำนักงาน ควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม. ระบุว่า ทาง กทม.ยินดีลงมาตรวจสอบร่วมกับ สภาองค์กรของผู้บริโภค ตามคำเชิญในวันนี้ โดยได้นำอุปกรณ์เครื่องมือวัดที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้วัดความกว้างลงพื้นที่มาด้วย

จากการวัดตามจุดที่สภาผู้บริโภคชี้จุดวันนี้ จะนำข้อมูลไปบันทึกประกอบส่งให้สำนักงานเขตตัดสินใจ และทางเขตอาจต้องลงพื้นที่มาวัดใหม่ซ้ำอีก เนื่องจากการวัดวันนี้มีข้อสังเกตในบางจุดว่า ต้องวัดระยะความกว้างถนนแบบกำแพงชนกำแพง 2 ฝั่ง เท่านั้น ดังนั้นการวัดแบบยึดจากเสาไฟฟ้า หรือ ประปาหัวแดง อาจใช้เป็นข้อมูลไม่ได้ แต่ กทม.จะทำบันทึกในส่วนนี้ไว้ รวมถึงข้อร้องเรียนของประชาชน

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 เอกชนติดตั้งป้ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลโครงการก่อสร้าง โดยระบุว่า เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 219 ห้อง อยู่ระหว่างขอรับใบอนุญาต ประเภท 39 ทวิ จาก กทม.ระยะเวลาแล้วเสร็จ 1 มี.ค.68 เจ้าของอาคาร คือ บ.แสนสิริ โฮลดิ้ง จำกัด

ขณะที่ น.ส.สารี อธิบายว่า เคยมีคำพิพากษาของศาลปกครอง ในบางคดีที่พิจารณาโดยไม่ได้ดูการวัดจากแค่กำแพงชนกำแพงเท่านั้น แต่ดูจากผลกระทบของพื้นที่จริงที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงเสาไฟฟ้า, รางน้ำ ด้วย เพราะถือเป็นโครงสร้างสาธารณะเช่นกัน

สำหรับโครงการนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 ทางบริษัท ลงมาติดตั้งป้ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลโครงการก่อสร้าง โดยระบุว่า เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 219 ห้อง อยู่ระหว่างขอรับใบอนุญาต ประเภท 39 ทวิ จาก กทม.มีกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ 1 มี.ค.2568 เจ้าของอาคาร คือ บ.แสนสิริ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทนำป้ายมาติดตั้ง ได้ชี้แจงกับทีมข่าวว่า ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ขณะที่นายทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์ หนึ่งในผู้ร้องเรียน ระบุว่า ขอให้บริษัททบทวนโครงการ เพราะกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งจากความกว้างของถนน , จำนวนห้องที่มีกว่า 200 ยูนิต ซึ่งอาจกระทบต่อผู้อยู่อาศัยเดิมและจำนวนประชากรที่มากขึ้นจากจำนวนยูนิต

รวมถึงความเสี่ยงผลกระทบในระหว่างงานก่อสร้าง ที่อาจเกิดฝุ่น PM 2.5 , มลภาวะทางเสียง และ จำนวนรถยนต์ที่จอดในคอนโดฯ กว่า 200 ห้อง แต่มีจำนวนจอดในคอนโดฯ ได้ไม่ครบตามจำนวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อาศัยต้องนำรถมาจอดภายในคอนโดฯ  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ชาวบ้าน 3 ชุมชน ร้องสอบโครงการสร้างคอนโดฯ ย่านประดิพัทธ์