"เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์" หรือ "บองบอง" ลูกชายของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการที่ปกครองฟิลิปปินส์มาอย่างยาวนานถึง 21 ปี กับ อิเมลดา มาร์กอส เจ้าของตำนานรองเท้าแบรนด์เนม 3,000 คู่
แม่ อยากให้ผมเป็นประธานาธิบดีตั้งแต่ 3 ขวบ
บองบอง มาร์กอส เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ซึ่ง อิเมลดา ภรรยาของอดีตผู้นำเผด็จการฟิลิปปินส์ เคยกล่าวหลายครั้งว่า ต้องการให้ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอขึ้นเป็นผู้นำประเทศ
บองบอง ถูกวางบทบาทให้ขึ้นมาผู้นำฟิลิปปินส์ตั้งแต่เด็ก เขาปรากฏตัวต่อสาธารณะตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และมีส่วนสำคัญในการหาเสียงให้กับพ่อ เขาถูกส่งไปเรียนต่อที่อังกฤษหลังจบการศึกษาระดับประถม และเป็นช่วงเดียวกับที่พ่อของเขาประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศในปี 1972
"บองบอง" ขณะยืนเคารพอนุสาวรีย์ "เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส"
บองบอง อ้างว่าจบการศึกษาปริญญาตรี จากสาขาปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และการเมือง จากออกซ์ฟอร์ด แต่เขาได้รับเพียงอนุปริญญาพิเศษสาขาสังคมศาสตร์เท่านั้น
เขาเริ่มอาชีพการเมืองในวัย 20 ปี กับตำแหน่งรองผู้ว่าการจังหวัดอิโลคอส นอร์เต ที่เจ้าตัวใช้เป็นเหตุผลถอนตัวจากการเรียนปริญญาโท ที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ข้อมูลอีกด้านระบุว่า เขาสอบไม่ผ่าน และค่าเทอม ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายรายเดือนกว่า 10,000 ดอลลาร์ บางส่วนมาจากบัญชีของทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
ระหว่างนั้น ความไม่พอใจของชาวฟิลิปปินส์ ผู้นำเผด็จการที่ครองอำนาจ 2 ทศวรรษ ด้วยการกำจัดผู้เห็นต่างและการทุจริตในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนถึงจุดแตกหัก นำไปสู่การปฏิวัติพลังประชาชนหรือการปฏิวัติสีเหลือง
บองบอง ยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดอิโลคอส นอร์เต และรับรู้ถึงวิสามัญฆาตกรรม และบังคับสูญหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ท้ายที่สุดวันที่ 25 ก.พ.1986 ตระกูลมาร์กอส ต้องลี้ภัยไปฮาวาย พร้อมสินทรัพย์จากการคอร์รัปชันมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
"บองบอง มาร์กอส" ขณะลงสมัครเลือกตั้ง
บองบอง เดินทางกลับฟิลิปปินส์อีกครั้ง หลังมาร์กอสผู้พ่อเสียชีวิต และเดินตามเส้นทางสายการเมืองต่อเนื่อง จากตำแหน่ง ส.ส.ในพื้นที่ฐานเสียง สู่ตำแหน่ง ส.ว.และแม้จะพ่ายแพ้ เลนี โรเบรโด ในการลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่ระหว่างนั้น บองบอง สร้างฐานเสียงทางการเมืองอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า บองบอง ใช้เป็นพื้นที่แก้ต่างล้างความผิดให้กับอดีตของครอบครัว
กระทั่งในปี 2022 ทายาทอดีตผู้นำเผด็จการวัย 65 ปีคนนี้ กลับมากุมบังเหียนฟิลิปปินส์อีกครั้ง หลังชนะการเลือกตั้ง ได้คะแนนเสียงถล่มทลายมากกว่า 31 ล้านเสียง กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 17 ของประเทศฟิลิปปินส์