หลังจากทราบผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ไทยพีบีเอสวิเคราะห์ สูตรการจัดตั้งรัฐบาล น่าจะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจับมือกัน และหาพรรคขั้วกลางให้ได้เสียงเกิน 375 เสียง แบบไม่ต้องอาศัยเสียงของ ส.ว.
หากพิจารณาจากผลการเลือกตั้งที่ออกมา ค่อนข้างจะพลิกโผจากเดิมที่คาดว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคอันดับ 1 ที่มีสิทธิเลือกพรรคร่วมรัฐบาล กลายเป็นพรรคก้าวไกลที่ยืนหนึ่ง ทะลุเป้าหมาย 100 ที่นั่งแบบเหนือความคาดหมาย
ถ้าทบทวนจุดยืนของพรรคก้าวไกลที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า "มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา" และย้ำว่า หากพรรคก้าวไกลมาที่ 1 จะโทรหาพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด ดังนั้นสูตรที่เป็นไปได้มากที่สุด
หากดูจากสูตรพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมจับมือกัน ก็ยังไม่เกิน 375 เสียง เพื่อชิงเก้าอี้ นายกฯ จากเสียง ส.ส.และ ส.ว.ทั้งหมด 750 เสียง คำถามคือ ไปชวนพรรคไหนดี คือ ถ้าชวนพรรคภูมิใจไทย คือ จบแล้ว ได้ 378 เสียง ปิดสวิตซ์ ส.ว.ทันที
แต่ประเด็นสำคัญคือ การเจรจาต่อรองอาจจะยาก เพราะภูมิใจไทยมีถึง 70 เสียง ก็หวังรักษากระทรวงเกรดเอ ทั้ง ก.คมนาคม ก.สาธารณสุข รวมถึง ก.การท่องเที่ยวและกีฬา
แต่ถ้าไม่อยากต่อรองกับพรรคภูมิใจไทย ก็มีทางเลือกอื่นอยู่เหมือนกัน เป็นมุมมองการวิเคราะห์ของ รศ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองฯ นิด้า นักวิชาการจากนิด้า ร่วมกับคุณสุทธิชัย หยุ่น เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกสูตรร่วมรัฐบาลที่น่าสนใจ
พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลอาจจะมี ดึงพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมรัฐบาลซึ่งเมื่อรวมแล้วรวมกันจะได้ประมาณ 333 เสียง จากนั้นดึงพรรคชาติไทยพัฒนา กับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็น 345 เสียง และอาจจะต้องได้เสียง ส.ว.อีก 30 กว่าคนมาสนับสนุน ก็น่าจะมีความเป็นไปได้
ส่วนสูตรที่เคยเป็นไปได้ กลายเป็นเรื่องยากแล้ว คือสูตรพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจับขั้วกันเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย คือ ถ้าจะเป็นสูตรดังกล่าว ต้องรวมกันอย่างน้อย 240 เสียง จากนั้นจึงจะไปรวมกับ ส.ว.จำนวน 250 เสียง หรือก็ยังมีโอกาสดึงงูเห่าจากขั้วตรงข้ามมาได้ ซึ่งถ้าดูจากคะแนนขณะนี้ 183 เสียง ต้องยอมรับว่า สูตรนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
หรือจะเป็นสูตรรัฐบาลข้ามขั้ว คือ การผลักพรรคก้าวไกลออกจากสมการนี้ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา โดยไม่มี พรรคก้าวไกล และ พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อ 2 พรรคนี้ซ้ายสุดขั้วกับขวาสุดขั้วมาเป็นฝ่ายค้าน ก็จะทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง เพราะฝ่ายค้านไม่มีเอกภาพ
หรือกรณีเลวร้ายที่สุด คือ เลือกนายกฯ ไม่ได้ ก็อาจนำไปสู่การยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น รัฐธรรมนูญก็เปิดช่องนายกฯ คนนอกไว้อยู่เหมือนกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งเพราะหลังจากนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนที่ กกต.ต้องตรวจสอบอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงคดีหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาพอสมควร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลการเลือกตั้ง2566 : เปิดไทม์ไลน์รัฐบาลใหม่
ผลการเลือกตั้ง2566 : เจาะพื้นที่ "ก้าวไกล" ล้มยักษ์หลายจังหวัด