ถือเป็นครั้งแรกในซีเกมส์ ที่มีการจัดแข่งขันกีฬาขวัญใจวัยรุ่น การเต้นเบรกกิ้ง ชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง บีบอย และ บีเกิร์ล แต่สำหรับไทยถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะวงการเต้นบีบอย-บีเกิร์ล ของบ้านเรามีจัดแข่งขันมานานกว่า 20 ปี
นักเต้นยุคแรก ๆ ก็ยังคงอยู่และก็ผ่านการคัดเลือก จากการแข่งขันในประเทศ จนเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยลงแข่งขันครั้งแรก นำโดย เจ้าของฉายา "ชีโน่" ชินวุฒิ จันทตรัตน์ อายุ 38 ปี มือ 1ของไทย ที่ผ่านการเต้นล่ารางวัลทั้งไทยและนานาชาติมานานกว่า 23 ปี จากนั้นไปดูลีลาของ "ที-โฟล์ว" กันตภณ รอดสอาด อายุ 28 ปี ที่มีประสบการณ์เต้นมานานกว่า 14 ปี
ส่วนฝ่ายหญิง ประกอบด้วย "ซาบะ" อารีรัตน์ นุ่มโต อายุ 25 ปี คนนี้มีพื้นฐานการเต้นมาก่อน แต่มาปรับเต้นแบบ บีเกิล์ด มานาน 5 ปีแล้ว ส่วนอีกหนึ่งคนที่ คือ "นุชชี่" ธนาวดี สุทธิศิริ ที่ตอนนี้พักรักษาตัวจากอาการป่วย
ทั้งหมดอยู่ภายใต้การคุมทีมของ "กอนซ่า" ลอองยศ วงษ์เงิน ซึ่งถือว่านักเต้นไทยทั้ง 4 คน มีความพร้อม เพราะทุกคนมีความกระหายที่จะลงสนามและพร้อมที่จะวาดลวดลายโชว์ของอย่างเต็มที่
ซีเกมส์ครั้งนี้มี 6 ชาติร่วมชิงชัย คือ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และไทย แต่ละชาติจะส่งนักกีฬาได้ ชาติละ 4 คน ชาย 2 หญิง 2 จะแข่งขันวันที่ 16 พ.ค.
รอบแรกจะแข่งเพื่อจัดอันดับ คือ ทุกคนต้องออกมาเต้นพร้อมกันและจะมีกรรมการ 5 คน ให้คะแนนเพื่อคัดเข้ารอบรอบ 8 คนสุดท้าย จากนั้นก็จะแข่งขันแบบแบทเทิลจับคู่ประชันกันแบบแพ้คัดออกจนได้ผู้ชนะ
นักกีฬาต้องมีมีท่าเบสิคบังคับ 4 ท่า คือ ท็อปร็อค หรือ เต้นแบบยืนเต้น, ฟุตเวิร์ค หรือการเต้นแบบสเต็ป, พาวเวอร์มูฟ หรือ ท่าหมุน และ ฟรีส ท่าหยุด
ส่วนเกณท์การตัดสินจะดูขอบเขตทางด้านร่างกาย ความหลากหลาย ความสามารถในการสร้างสรรค์ บุคคลิกลักษณะ การแสดงออก การแสดงออกทางดนตรี
ทีมไทยไม่กังวลเรื่องการตัดสินเลยเพราะมั่นใจในความแฟร์ของเจ้าภาพ รวมถึงศักยภาพของทีมไทย และอยากให้มองถึงความสนุกและแปลกใหม่ของกีฬานี้ ซึ่งเข้ามาไทยนานกว่า 30 ปีแล้ว
ซีเกมส์ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของกีฬาเบรคกิ้ง ในเวทีนานาชาติของไทย เพราะต่อจากซีเกมส์ ชุดนี้จะไปต่อที่การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งจีนได้บรรจุกีฬานี้เป็นครั้งแรก หากใครคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ได้จะได้สิทธิไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่ฝรั่งเศสที่ บรรจุกีฬานี้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน