การสอบสวนเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางในวันที่ 18 ธ.ค.2565 คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว 289 ปาก
เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2566 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่าบุคคลที่ถูกเรียกสอบ มีทั้งกำลังพลที่รอดชีวิต และหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุที่เรืออับปางเบื้องต้นพบว่า มาจากน้ำเข้าเรือ แล้วไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทัน กระทั่งเรือเอียงและจมลงในที่สุด ซึ่งสาเหตุต่างๆ ต้องนำมาตั้งสมมติฐานประมวลหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง โดยนำผลสอบบุคคลมาประกอบกับวัตถุพยาน คือเรือหลวงสุโขทัยที่ยังจมอยู่ใต้ทะเล
สำหรับการกู้เรือยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากเรือจมอยู่ในระดับน้ำลึก 40-50 เมตร จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากมีอุบัติเหตุทำให้เรือเสียหาย จะส่งผลต่อการค้นหาความจริงและพยานหลักฐาน จึงจำเป็นต้องเฟ้นหาบริษัทที่มีขีดความสามารถ คาดว่าอาจจะใช้งบสูงกว่า 200 ล้านบาท
ทางด้านประเด็นเสื้อชูชีพที่พบว่า มีกำลังพลบางคนไม่มีชูชีพนั้น จากการตรวจสอบอัตราเสื้อของเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นเรือรุ่นเดียวกันกับเรือหลวงสุโขทัย พบว่ามีเสื้อชูชีพเพียงพอสำหรับกำลังพลที่อยู่ในเรือ คืออยู่ที่ 120- 130 ตัว
และได้ตรวจสอบกับกรมพลาธิการ ได้รับการยืนยันว่า ได้แจกจ่ายจำนวนเท่ากัน คือ 130 ตัว เพียงพอสำหรับกำลังพลที่อยู่บนเรือ 105 คน และที่พบว่า บางคนมีและบางคนไม่มีเสื้อชูชีพ ก็อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งเรื่องนี้สามารถชี้แจงต่อประชาชนได้
ขณะที่กำลังพล 5 นาย ที่ยังหาไม่พบ เบื้องต้นได้มีการเยียวยาจ่ายเงินไปแล้ว 2,000,000 บาท และต้องรอให้ศาลสั่งว่าเป็นผู้สูญหายก่อนตามกฎหมายจึงจะมีการดำเนินการจ่ายเงินที่เหลือได้