วันนี้ (30 พ.ย.2565) ไทยพีบีเอสออนไลน์ ติดตามภารกิจปล่อยลูกช้างป่า "ทับเสลา" คืนป่าธรรมชาติ พร้อมแม่รับ "วาเลนไทน์" ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง จ.ลำปาง ซึ่งครั้งนี้มี "พังดอกรัก" ร่วมเดินทางเข้าป่าด้วย
นายศุภกิจ วินิตพรสวรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมมาตรฐานการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART Patrol) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตอนนี้ทับเสลามีความพร้อม 100% หลังจากตรวจเช็กค่าเลือดซึ่งจะบอกได้ถึงภาวะกล้ามเนื้อและระบบภายใน ทุกอย่างปกติดี เชื้อโรคในตัวลูกช้างไม่มีและตอนนี้หย่านมแล้ว
จากคอกไปจุดปล่อย (ลำห้วยขุ่นแม่ยาว) ต้นน้ำสำคัญ ระยะทาง 4 กิโลเมตร และช่วงแรกจะผลักดันช้างแม่-ลูกเข้าไปในพื้นที่ราบ บริเวณจุดคอกควาย เพื่อให้ลูกช้างปรับตัวกับสภาพพื้นที่ใหม่ที่มีอาหารและแหล่งน้ำเพียงพอ หลังจากปล่อยไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ 2 คน และควาญช้างอีก 2 คน ติดตามดูในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จากนั้นจะค่อย ๆ ทิ้งช่วงการติดตาม
นายศุภกิจ กล่าวอีกว่า อยากให้ช้างอยู่ในสภาพธรรมชาติมากที่สุด ลุ้นให้ปรับตัวได้เร็วในสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย เรียนรู้การใช้พื้นที่กว้างกว่าเดิมและพืชพรรณต่าง ๆ
วันนี้เป็นบันทึกเรื่องใหม่ ไม่ได้เป็นบทสุดท้าย แต่จะเป็นเรื่องราวตลอดเวลาการเดินทาง 2 ปี รวมไปถึงบทพิสูจน์ใหม่ในการนำช้างคืนสู่ธรรมชาติ ถือเป็นฤกษ์ดีที่จะปลดพันธนาการทางกายภาพ คืนสู่ธรรมชาติที่แท้จริง
ขณะที่นายภาณุวัฒน์ สาริวาท เจ้าหน้าที่ดูแลลูกช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำหน้าที่ดูแลทับเสลาตั้งแต่ห้วยขาแข้งจนมาถึงดอยผาเมือง เล่าว่า ที่ผ่านมาดูแลทับเสลาตลอด 24 ชั่วโมง เป็นลูกช้างที่ฉลาด ความจำดีและช่างสังเกต
ตลอดเวลาที่ปรับพฤติกรรม เจ้าหน้าที่จะสลับกันดูแล แต่จะไม่คลุคลีกับลูกช้าง เพื่อไม่ให้ติดคนและหลังจากปล่อยแล้วก็จะติดตามสังเกตว่าโขลงจะรับหรือไม่ ซึ่งก็หวังให้โขลงช้างใหญ่มารับทับเสลาเข้าป่าไปด้วย
การได้ปล่อยทับเสลาสู่ป่าธรรมชาติ เป็นความหวังตั้งแต่ครั้งแรกที่พบช้าง
การปล่อยทับเสลาคืนสู่ป่าครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเตรียมการนานกว่า 2 ปี หลังพบลูกช้างพลัดหลงโขลงในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี เมื่อเดือน เม.ย.2563 ในตอนนั้นลูกช้างมีอายุเพียง 2-3 เดือน และไม่มีโขลงช้างมารับ เจ้าหน้าที่จึงนำมาอนุบาลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ก่อนเคลื่อนย้ายมาดูแลที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง เมื่อเดือน พ.ย.2563 พร้อมปรับพฤติกรรมเพื่อปล่อยคืนป่าธรรมชาติ โดยพบว่า "ทับเสลา" เข้าหากันได้ดีกับแม่รับพัง "แม่วาเลนไทน์" ที่สอนลูกช้างป่าเรียนรู้และซึมชับพฤติกรรมการดำรงชีวิตได้เองตามธรรมชาติ ทดลองหากินกับแม่รับแบบจำกัดพื้นที่ ผูกโซ่ยาวทั้ง 2 ตัวบริเวณเดียวกันภายในรั้วไฟฟ้ากระแสอ่อน ซึ่งลูกช้างป่าสามารถเลียนแบบพฤติกรรมช้างแม่รับในการดำรงชีวิตในป่าธรรมชาติได้ดี