วันนี้ (22 พ.ค.2565) เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP รายงานความคืบหน้าการติดตามเสือวิจิตร เสือโคร่งจากป่าห้วยขาแข้ง โดยระบุว่า ตามเสือวิจิตร ขวัญใจชาวโซเซียล พบว่าสามารถหากวางป่ากินเป็นอาหารได้ แต่ตามไม่เจอตัว ไม่เจอปลอกคอที่ส่งสัญญาณมาแบบนักวิจัยเรียกว่า “สัญญาณรัว” ต่างจาก “สัญญาณปกติ” ที่จะเป็นจังหวะ 1 บี๊บต่อ 1 วินาที แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นรัวคือ จะมีเสียงมากกว่า1 บี๊บใน 1 วินาที ซึ่งการรัวของสัญญาณจะเกิดขึ้นเมื่อ สัตว์อยู่นิ่งในท่าเดิมนานๆ (ตายหรือรวน) หรือปลอกคอหลุดจากตัวสัตว์แล้ว
ทั้งนี้ หลังจากทีมวิจัยตามหาโดยใช้เครื่องจับสัญญาณไปในป่าชัน และได้ยินเสียงดังใกล้ๆ แล้วจู่ๆเสียง บี๊บ บี๊บ ก็เงียบหายไปดื้อๆ “มันรู้ตัวแล้วหนีไปแล้วมั้ง ปกติไม่เคยเจอตัวเจอแต่รอยอย่างเดียว” ตอเต่าแรกบอก จึงปิดเครื่องรับสัญญาณแล้วเดินต่อไป สักพักเปิดเครื่องใหม่ เสียงสัญญาณก็กลับมาปกติ จึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าหาจุดหมาย มุดกันทั้งที่รก เพราะไม่อยากเสียเวลาฟาดฟันกับขวากหนามที่ขวางอยู่
ภาพ :Thailand Tiger Project DNP
“เจอแล้วคับ” ทีมที่ล่วงหน้าอีกทางตะโกนบอก ทีมที่เหลือจึงดิ่งเข้าหาตามเสียงที่ได้ยิน เมื่อไปถึงจึงเห็นว่า ปลอกคอนั้นดีดตัวหลุดจากคอวิจิตรเรียบร้อยแล้ว จากสภาพแวดล้อมที่เห็นคาดว่าปลอกคอน่าจะหลุดขณะวิจิตรนอนแทะโคนต้นไม้เพลินๆ ไม่มีร่องรอยการกางเล็บปรากฏที่พื้นดินที่สื่อว่ามันตกใจ
ดีใจที่รู้ว่าวิจิตร ยังปลอดภัยดีในพื้นที่ที่มีร่องรอย หมูป่า กวางป่า และกระทิง
ปรากฎ ตลอดเส้นทางราบที่เดินกลับโดยใช้เวลาเพียงสามสิบนาทีกลับถึงที่ตั้งจุดเริ่มต้น แต่อีกเสี้ยวความรู้สึกคือเสียดายโอกาสที่พลาดในการจับเปลี่ยนปลอกคอเส้นใหม่ ทั้งที่พยายามจนได้ปลอกคอเส้นใหม่มาอยู่ในมือนุดวิจัยแล้ว ต่อไปก็เป็นการตามลุ้นข้อมูลจากภาพ
ซึ่งหวังว่ามันจะเติบใหญ่สร้างครอบครัวได้ในท้ายที่สุด แล้วเมื่อดวงชะตาต้องกันวิจิตร กับนุดวิจัยอาจได้เจอกันในป่าใหญ่ ในห้วงวันใดวันหนึ่งของอนาคต แต่ครั้งนี้อยากร้องขอเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่ใช้ไปในระยะขจัด 900 เมตรคืนมา อีกทั้งเซลฟีกับพี่วิจิตรก็ไม่ได้มา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดแฟ้มประวัติ "เสือวิจิตร" เสือหนุ่มแห่งป่าห้วยขาแข้ง