ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"สกลธี" ผุดไอเดียหาพื้นที่ใต้ทางด่วน สร้างโคเวิร์คกิ้งสเปซ

การเมือง
25 เม.ย. 65
15:18
127
Logo Thai PBS
 "สกลธี" ผุดไอเดียหาพื้นที่ใต้ทางด่วน สร้างโคเวิร์คกิ้งสเปซ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สกลธี" หาเสียงเขตปทุมวัน บางรัก พร้อมลุยดูพื้นที่ใต้ทางด่วนถนนรองเมือง ชูปรับพื้นที่เพิ่มศักยภาพสร้างโคเวิร์คกิ้งสเปซตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่ใช้เป็นออฟฟิศทำงานโชว์ไอเดียธุรกิจ

วันนี้ 25 เม.ย.2565 นายสกลธี ภัททิยกุล กล่าวระหว่างลงพื้นที่ถนนรองเมือง สามย่าน ว่า วันนี้นอกจากจะมาพบประชาชน เพื่อหาเสียงแล้วตนยังมาดูการจราจร บนถนนรองเมือง เขตปทุมวัน ซึ่งได้รับการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสถานที่มีความแออัดและการจราจรติดขัด เนื่องจากมีรถจอดริมข้างทางทำให้กีดขวางการจราจร

 

นายสกลธี กล่าวว่า ละแวกนี้มักได้รับร้องเรียนเรื่องสิ่งกีดขวางการจราจร เพราะมีรถจอดริมถนน รวมถึงรถขนส่งต่างๆ ที่ จะมาจอดรถเพื่อขนส่งสินค้าในช่วงเช้า และทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัดและกลายเป็นปัญหา ซึ่งตนคิดว่าในอนาคตอันใกล้ควรจะมีการโอน และการบังคับใช้เกี่ยวกับจุดห้ามจอดต่างๆ มาที่ กทม.โดยเบ็ดเสร็จเพราะจะทำให้ กทม.สามารถกวดขันบังคับใช้ได้มากขึ้น เพราะถึงแม้ตอนนี้จะทำได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีการลักลั่นกันอยู่ระหว่าง กทม.กับตำรวจจราจร

นอกจากนี้ ตนยังมีแนวคิดจะส่งเสริมพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังไม่มีการใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่นพื้นที่ใต้ทางด่วน ที่จะเจรจากับการทางพิเศษเพื่อขอใช้พื้นที่ตามโครงการคือทำเป็นลานกีฬา หรือโคเวิร์กกิ้งสเปซให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่มาใช้ประโยชน์ได้

 

ผุดไอเดียหาพื้นที่ใต้ทางด่วน สร้างโคเวิร์คกิ้งสเปซ

นายสกลธี กล่าวว่า ในช่วงเช้าตนได้ลงพื้นที่เขตปทุมวัน พบว่าจุดใต้ทางด่วนพระราม 1 ซึ่งมีที่ว่างหลายจุด ที่ตรงกับไอเดียของตนอยู่แล้วว่า ต้องการหาพื้นที่ส่วนกลางซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐ ของ กทม. หรือของหน่วยงานอื่นก็แล้วแต่ นำมาทำประโยชน์หลายๆประเภท หลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นอาจจะทำเป็นสวนขนาดเล็กหรือ Pocket Park สองจะทำเป็นลานกีฬา หรือสามทำเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซ เพราะบริเวณนั้นเป็นจุดที่เข้าถึงง่าย ใกล้มหาวิทยาลัย ก็จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะให้คนใช้ทำงานใช้ร่วมกัน

 

นายสกลธี กล่าวอีกว่า มองว่าสมัยนี้หากเรามาทำห้องสมุดเด็กอาจจะไม่เข้าแล้ว เพราะว่าเด็กจบใหม่ๆก็ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร แต่อยากเริ่มต้นทำงานด้วยตัวเอง ดังนั้นเราต้องจัดหาพื้นที่ ให้เขามาทำงานเพื่อหาอนาคตของเขาได้ ซึ่งจะมีการเจรจากับการทางพิเศษเพื่อหาพื้นที่มาทำเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซ

เท่าที่ผมเห็นตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็ทำเป็นอู่แท็กซี่หรือที่จอดรถ ซึ่งผมคิดว่าพื้นที่เหล่านี้ สามารถทำประโยชน์ได้มากกว่านั้น โดยโคเวิร์คกิ้งสเปซที่ว่าอาจจะไม่ต้องหรูหราแต่ทำเป็นพื้นที่ทำงานได้ หรืออาจใช้ตู้คอนเทนเนอร์แบบฮิปๆที่วัยรุ่นชอบ จัดหา WiFi และเครื่องอำนวยความสะดวกให้เขา เป็นพื้นที่ให้เขามาใช้สมองและระดมความคิดในการทำงานร่วมกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง