วันนี้ (20 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานพันธุ์บุรีรัมย์ กัญชาเพื่อทางการแพทย์ ของจังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 2 มีผู้ป่วยและประชาชนจำนวนมาก เดินทางมาชมนวัตกรรมนิทรรศการและขอจดแจ้งครอบครองต้นกัญชา เพื่อรักษาโรคให้ถูกต้องตามกฎหมาย
สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ คาด ตลอด 2 วัน (19-20 เม.ย.) มีผู้ป่วยมาแจ้งจำนงค์ครอบครองกัญชามากกว่า 5,000 คน
โรงเรือนเพาะปลูกต้นกัญชา ของสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจจากประชาชน โรงเรือนนี้มีต้นทุนเพียง 20,000 บาทเท่านั้น นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ หน่วยงานที่สร้างโรงเรือนเพาะปลูกกัญชา ยอมรับว่า ทิศทางของการปลดล็อคกัญชาที่รัฐกำลังทำอยู่ ตัดโอกาสการเข้าถึงของประชาชน เพราะต้นทุนโรงเรือนของกระทรวงสาธารณสุขราคาสูงถึง 10 ล้านบาท จึงอยากให้ภาครัฐร่วมมือกัยภาคประชาชน ขับเคลื่อนการปลดล็อคกัญชาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายประพัฒน์ กล่าวว่า ผลักดันกฎหมายเรื่องกัญชามา 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเห็นผู้ป่วยลักลอบใช้กัญชาจำนวนมาก จึงประสานความร่วมมือกับเกษตรกรจากประเทศแคลิฟอเนียร์ นำโมเดลการปลูกกัญชามาใช้ประเทศไทย ต้นทุนไม่แพง หากเทียบกับหน่วยงานของภาครัฐ
นายชินพัฒน์ แสงทอง ผอ.ศูนย์พัฒนาการแพทย์แผนไทยสุโขอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจมาร่วมงานดังกล่าว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางการแพทย์แผนไทย มีการใช้กัญชาใต้ดินมานานแล้ว จึงอยากเป็น 1 เสียง ให้รัฐบาลปลดล็อคกัญชาอย่างเสรี
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เสรี อย่างน้อยชาวบ้านก็ทำมาหากินได้ ถ้าเราเป็นประเทศแรกของอาเซียนก็จะนำมาซึ่งรายได้มหาศาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เริ่มแล้ว! พันธุ์บุรีรัมย์ งานกัญชาเพื่อการแพทย์ 19 -21 เม.ย.