ย้ายป้ายรถเมล์-ตัดเกาะกลางรัชดา แก้รถติดลาดพร้าว

วันนี้ (7 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น. บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มีการจรจรค่อนข้างหนาแน่นขณะที่สภาพอากาศฝนตกลงมา จึงทำให้มีปริมาณรถสะสมบนท้องถนน จากบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า และถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก รถเคลื่อนตัวค่อนข้างช้า โดยห้าแยกลาดพร้าว เป็นจุดที่มีการปิดช่องทางจราจร เนื่องจากการก่อสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีเขียว เริ่มจากถนนพหลโยธิน ช่วงหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ไปถึงสวนสมเด็จย่า ฝั่งละ 1 ช่องทางนานกว่า 2 ปี ซึ่งแผนการดำเนินงานรถไฟสายสีเขียวนี้ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เริ่มการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2558 และจะเปิดให้ใช้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้

ขณะที่ทางเจ้าที่ตำรวจจราจรจากสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อได้มีการประสานงานเร่งช่วยระบายรถร่วมกัน เนื่องจากรถจำนวนมากสัญจรผ่านเส้นทางนี้เป็นประจำ โดยตั้งแต่เวลา 18.00 น.จะมีปริมาณรถที่ค่อนข้างหนาแน่น เป็นเพราะเป็นช่วงเวลาที่รถจากหลายจุดมารวมกัน เพื่อต้องการสัญจรกลับบ้านบางส่วน และเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าด้วย

ผู้ที่ใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ให้ข้อมูลว่า ปกติเส้นทางนี้ จะมีรถหนาแน่นเวลาประมาณ 19.00 น. และจะเริ่มคลี่คลายจราจรปกติ เวลาประมาณ 21.00 น. โดยส่วนใหญ่จะเลือกนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อความรวดเร็วและสะดวกในการเดินทาง

ย้ายป้ายรถเมล์-ตัดเกาะกลางรัชดา แก้รถติดลาดพร้าว

พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการ ควบคุมงานจราจร ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาการจราจร เส้นถนนลาดพร้าวที่กำลังได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ เปิดเผยมติที่ประชุมว่า จะมีการตัดเกาะกลางถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าศาลอาญารัชดา เพื่อใช้เป็นจุดกลับรถ รองรับรถเข้าใช้เส้นทางลัดซอยรัชดาภิเษก 30 32 และ 36 ออกไปทางโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว-วังหิน ถนนประเสิรฐมนูกิจ ถนนประดิษฐมนูธรรม และลาดปลาเค้า โดยจะห้ามจอดรถในซอยลัด

นอกจากนี้จะทำการขยับย้ายป้ายรถประจำทางจำนวน 21 จุดตลอดเส้นทางถนนลาดพร้าว ขาออก ให้เหลื่อมกับแนวแบริเออร์ก่อสร้างรถไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กระทบช่องทางจราจรจะมีการนำแท่งแบริเออร์พลาสติกมาวางบริเวณแนวก่อสร้างชั่วคราวเพื่อศึกษาผลกระทบการจราจรในแนวก่อสร้าง โดยจากนี้จะนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาจราจรถนนลาดพร้าว ให้รัฐบาลรับทราบ ก่อนจะมีการชี้แจงผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบเป็นวงกว้างต่อไป