สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในอิหร่านรายงานว่า แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขนาด 7.3 บริเวณพรมแดนของอิหร่านและอิรัก สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอิหร่าน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 445 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 7,100 คน
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองชาร์โปล-อี-ซาฮับ ห่างจากพรมแดนติดกับอิรักประมาณ 15 กิโลเมตร และในอีกพื้นที่ของจังหวัดเคอร์มานชาห์ทางภาคตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ส่วนในอิรักมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนในเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 535 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงระดมกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตตามซากปรักหักของอาคารบ้านเรือนที่พังถล่มจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว
ขณะที่โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างได้รับความเสียหายหนักและต้องให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บหนักกว่า 100 คน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเตหะราน
ธนาคารเลือดในกรุงเตหะรานต้องขอให้ประชาชนออกมาบริจาคเลือด เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติที่ได้รับบาดเจ็บ นับเป็นแผ่นดินไหวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกในปีนี้ และแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลถึงประเทศตรุกี อิสราเอล และคูเวต
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า พื้นที่ในรัศมี 100 กิโลเมตร จากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า 1,800,000 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดของอิหร่าน นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา
เมื่อปี 2546 อิหร่านเคยเผชิญกับแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.6 ในเมืองบาม ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 26,000 คน