วันนี้ (19 ต.ค.2560) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ว่า ยังมีวิธีการเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก แม้ว่าจะยังไม่มีเอกชนรายใดเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ ซึ่งทางออกสุดท้าย รัฐบาลอาจจะเป็นตัวแทนไปเจรจากับบริษัท อินฟรอนท์ ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ในทวีปเอเชีย และอาจต้องร่วมมือกับทีวีพูล เพื่อดำเนินการถ่ายทอดสดการแข่งขัน แต่ปัญหาใหญ่ของรัฐบาลในปัจจุบัน คือการเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม การเจรจาในขณะนี้จึงยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม และต้องศึกษาข้อดีข้อเสียอย่างรอบคอบ
ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะตัดสินใจเจรจาซื้อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก อาจต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์ เพราะว่าการดึงงบประมาณจากส่วนอื่นอาจไม่เหมาะสม กรณีการดึงเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติอาจเป็นการทำผิดวัตถุประสงค์ พ.ร.บ.กองทุน แต่หากเจรจากับ กสทช.อาจจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ กสทช.เคยใช้เงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ จำนวน 427 ล้านบาทชดเชยให้บริษัท อาร์เอส ในฟุตบอลโลก 2014 มาแล้ว
ก่อนหน้านี้ บริษัท อาร์เอส ปฏิเสธชัดเจนว่าจะไม่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกอีก โดยครั้งนี้ต้องใช้เงินมากถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,100 ล้านบาท แม้ว่าจะมีข่าวว่าบริษัท ทศภาค ที่คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2002 และฟุตบอลโลก 2006 ให้ความสนใจ แต่ยังไม่มีการยืนยันจากผู้บริหาร
ส่วนปัจจัยที่ทำให้บริษัทเอกชนไม่กล้าลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก อาจเป็นเพราะการออกกฎ MUST HAVE ของ กสทช.ที่ระบุให้ฟุตบอลโลกเป็น 1 ใน 7 รายการสำคัญที่ต้องออกอากาศทางฟรีทีวีเท่านั้น ซึ่งหากบริษัท ทศภาค ยอมซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ปัญหาที่ตามมาคือการหาช่องทางการถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากเช่นกัน กฎนี้จึงไม่เอื้อต่อบริษัทเอกชนในการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
กกท.เตรียมหาทางออกซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 http://news.thaipbs.or.th/content/267038
"ฟีฟ่า" คาดว่ารายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2018-2022 ทะลุ 61,000 ล้านบาท http://news.thaipbs.or.th/content/267036