แชร์

Copied!

ภัยแฝงในโลกเกมออนไลน์ เมื่อความสนุกกลายเป็นกับดักไซเบอร์

24 เม.ย. 6814:13 น.
ภัยแฝงในโลกเกมออนไลน์ เมื่อความสนุกกลายเป็นกับดักไซเบอร์

สารบัญประกอบ

    เกมออนไลน์มีบทบาทสำคัญในเด็กและเยาวชน ด้วยภาพลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความสนุก สีสัน และการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ แต่กลับซ่อนภัยเงียบที่หลายคนคาดไม่ถึง ทั้งการขโมยข้อมูล ฟิชชิง การหลอกลวงทางการเงิน หรือแม้แต่พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัว

    สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยผลวิจัยกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จนถึง ปวส. และปริญญาตรี 3,292 คน พบว่าเกือบ 1 ใน 3 เล่นเกมเป็นประจำทุกวัน และมี 10% ที่เล่นมากกว่าวันละ 5 ชั่วโมง บางส่วนเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าเดือนละ 5,000 บาท และเด็กกว่า 80% เล่นเกมเพราะความสนุกสนานเพลิดเพลิน และ 60% เล่นเพราะไม่มีอะไรทำที่ดีไปกว่านี้ 

    สิ่งที่น่ากังวลคือเด็กและวัยรุ่นจำนวนมากยังขาดทักษะในการแยกแยะว่าอะไรคือความปลอดภัยในเกม และอะไรคือพฤติกรรมที่ควรระวัง เช่น การคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก การให้ข้อมูลส่วนตัว หรือการพูดคุยกับบุคคลแปลกหน้าในเกม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นช่องทางที่ อาชญากรไซเบอร์ มักใช้หลอกลวงเหยื่อโดยที่ผู้เล่นไม่ทันระวังตัว ยิ่งไปกว่านั้น เกมออนไลน์บางเกมยังเปิดให้มีการซื้อขายไอเทมหรือแลกเปลี่ยนเงินจริง ทำให้กลายเป็นเครื่องมือชั้นดีในการหลอกล่อเหยื่อเข้าสู่กับดักทางการเงิน หรือแม้แต่การฟอกเงินโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว

     

    ภัยแฝงในโลกเกมออนไลน์ เมื่อความสนุกกลายเป็นกับดักไซเบอร์


    รูปแบบของภัยแฝงในเกมออนไลน์

    ภัยในเกมออนไลน์ มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ตั้งใจล่อเหยื่อโดยตรง และแบบที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนผ่านกิจกรรมในเกม โดยเฉพาะในเกมยอดนิยมที่มีระบบเติมเงิน หรือ แลกเปลี่ยนไอเทม ซึ่งเป็นช่องทางเปิดให้อาชญากรไซเบอร์ แทรกซึมเข้าสู่ระบบผู้เล่นได้ง่ายยิ่งขึ้น ความสนุกและการมีปฏิสัมพันธ์ในเกมจึงกลายเป็นดาบสองคมที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงโดยที่ผู้เล่นไม่รู้ตัว

    1. การขโมยข้อมูลส่วนตัว

    หนึ่งในภัยที่พบบ่อยที่สุดคือการหลอกลวงให้ผู้เล่นกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านเว็บไซต์ปลอมที่ดูคล้ายหน้าเว็บไซต์ของเกมจริง อาชญากรมักส่งลิงก์เหล่านี้ผ่านแชตในเกม, Facebook Messenger หรือแม้แต่ Discord โดยอ้างว่าเป็นกิจกรรมแจกของรางวัล, โค้ดเติมเกมฟรี หรือไอเทมพิเศษ หากผู้เล่นหลงเชื่อและกรอกข้อมูล เช่น อีเมล รหัสผ่าน หรือเลขบัตรเครดิต ข้อมูลเหล่านี้ก็อาจถูกนำไปใช้แฮกบัญชี ขายต่อในตลาดมืด หรือใช้ซื้อสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตทันที

    2. ฟิชชิงผ่านของรางวัล / ลิงก์หลอก

    กิจกรรมยอดฮิตที่หลายคนมองว่า “แค่คลิกก็ได้ของฟรี” เช่น การแจกโค้ดเกม, ไอเทมหายาก หรือกล่องสุ่มไอเทม มักถูกใช้เป็นเครื่องมือของ ฟิชชิงในเกม อาชญากรจะฝังลิงก์หลอกไว้เพื่อหลอกให้ผู้เล่นกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบของเว็บปลอม หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่มีมัลแวร์ฝังไว้ ทำให้เครื่องติดไวรัส, ข้อมูลรั่วไหล หรือถูกควบคุมจากระยะไกลได้อย่างง่ายดาย

    3. แชตปลอม / ตัวละครหลอก

    อีกหนึ่งภัยที่แฝงมาอย่างแนบเนียนคือการ “ตีสนิท” จากบุคคลแปลกหน้าในเกมที่ปลอมตัวเป็นผู้เล่นธรรมดา แต่เบื้องหลังคือ อาชญากรออนไลน์ ที่มีเจตนาไม่ดี พวกเขาอาจใช้เวลาคุยอย่างเป็นมิตร เพื่อสร้างความไว้ใจ แล้วค่อย ๆ ขอข้อมูลส่วนตัว, ขอภาพถ่ายส่วนตัว หรือล่อให้เด็ก ๆ ย้ายไปพูดคุยนอกเกม เช่น ใน Discord, LINE หรือ Instagram ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ควบคุมได้ยากและอันตรายมากขึ้นหากไม่มีการระวัง

    4. การพนันแฝงในเกม

    ระบบกล่องสุ่มหรือที่รู้จักกันว่า “กาชา” (Gacha) มีความคล้ายคลึงกับการพนัน โดยผู้เล่นต้องจ่ายเงินเพื่อสุ่มไอเทมโดยไม่สามารถรู้ผลล่วงหน้า อาจทำให้รู้สึกตื่นเต้นและอยากลองอีกเรื่อย ๆ จนเกิดพฤติกรรมเสพติดโดยไม่รู้ตัว บางกรณีอาจมีการเติมเงินซ้ำ ๆ จนเกิดภาระทางการเงินโดยไม่รู้ว่าถูกออกแบบมาให้ "กระตุ้น" การใช้เงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน ภัยในเกมออนไลน์ ที่ร้ายแรงและพบได้บ่อยในปัจจุบัน

    เด็กและวัยรุ่น เหยื่อรายใหม่ในโลกเกม

    ในยุคดิจิทัล เด็กและวัยรุ่นคือกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี พวกเขาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง การเรียนรู้ และการสื่อสาร โดยเฉพาะในโลกของเกมออนไลน์ที่เต็มไปด้วยสีสันและการแข่งขัน ทว่าเบื้องหลังความสนุกนั้น กลุ่มนี้กลับกลายเป็น เป้าหมายหลัก ของอาชญากรไซเบอร์ เนื่องจากพวกเขายังขาดทักษะในการวิเคราะห์ภัย และไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือความปลอดภัย หรืออะไรคือพฤติกรรมที่เข้าข่ายหลอกลวง

    เด็กบางคนอาจถูกชักจูงจาก “เพื่อนในเกม” ให้โอนเงินหรือเติมเงินซื้อไอเทมโดยอ้างว่าอีกฝ่ายไม่มีเงิน แต่จะโอนคืนให้ภายหลัง ในความเป็นจริง บุคคลดังกล่าวอาจเป็น บัญชีปลอม ที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงินโดยไม่มีเจตนาจะคืนใด ๆ

    บางกรณีรุนแรงยิ่งกว่า เมื่ออาชญากรไซเบอร์พยายามเข้าถึง ข้อมูลส่วนตัวหรือภาพถ่ายล่อแหลม โดยใช้วิธีพูดคุยแบบเป็นมิตร สร้างความไว้ใจ แล้วค่อย ๆ ขอข้อมูลส่วนตัว หรือขอให้ถ่ายภาพส่งให้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การ แบล็กเมล์ หรือข่มขู่ในภายหลัง
    ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกรณีที่เด็กและวัยรุ่นซื้อไอเทมจาก “ผู้ขาย” ผ่านแชตในเกมหรือโซเชียลมีเดีย โดยไม่ผ่านระบบที่ปลอดภัย เมื่อโอนเงินแล้ว ผู้ขายกลับ “หายตัวไป” โดยไม่มีการส่งไอเทมใด ๆ กลับมา ทำให้เด็กต้องสูญเสียเงินโดยไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้

    ผลกระทบของเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้จบแค่การเสียเงิน แต่ยังส่งผลระยะยาวต่อ ความมั่นใจในตนเอง พฤติกรรมทางอารมณ์ และความไว้วางใจในคนรอบข้าง เด็กบางคนอาจรู้สึกผิด อับอาย และเลือกจะเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบ ๆ ไม่กล้าบอกใคร แม้แต่พ่อแม่ ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น เงียบขรึม ซึมเศร้า หรือหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับครอบครัว

    ผู้ปกครองจึงควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เช่น การใช้เงินเกินควร, มีบิลเรียกเก็บเงินที่ไม่ทราบที่มา, หรือ ลูกเริ่มเก็บตัวและไม่เปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตออนไลน์

    อาชญากรไซเบอร์ใช้เกมเป็นเครื่องมืออย่างไร

    ในขณะที่เกมออนไลน์กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น อาชญากรไซเบอร์ก็มองเห็นโอกาสในการ ใช้เกมเป็นเครื่องมือ ในการก่ออาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพ โดยอาศัยความไร้เดียงสาและความเชื่อใจของผู้เล่นเป็นช่องทางสำคัญ

    1. สร้างบัญชีปลอม / ใช้ bot ลวงเหยื่อ

    อาชญากรมักสร้างบัญชีปลอมหรือใช้โปรแกรมบอท (Bot) ในเกมเพื่อปลอมตัวเป็นผู้เล่นจริง ทำให้ดูเหมือนเป็น “เพื่อนในเกม” ที่เป็นมิตร พูดคุยอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความไว้ใจ เมื่อผู้เล่นเปิดใจ ก็จะเริ่มมีการขอข้อมูลส่วนตัว หรือชวนทำกิจกรรมที่เสี่ยง เช่น ให้คลิกลิงก์น่าสงสัย หรือโอนเงินแลกไอเทม โดยผู้เล่นไม่รู้เลยว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงที่วางแผนไว้อย่างแนบเนียน

    2. การแพร่มัลแวร์ผ่านไฟล์เกม

    อีกหนึ่งวิธีที่พบบ่อยคือการแพร่มัลแวร์ผ่าน “ไฟล์ติดตั้งเกมเถื่อน” หรือ “โปรแกรมโกงเกม (cheat/mod)” ที่ถูกแจกในเว็บไซต์หรือฟอรั่มนอกระบบ ตัวไฟล์อาจมีมัลแวร์แฝงอยู่ เช่น Keylogger ที่สามารถดักจับข้อมูลการพิมพ์บนคีย์บอร์ด หรือ Trojan ที่เปิดทางให้อาชญากรเข้าควบคุมเครื่องได้จากระยะไกล ส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล หรืออุปกรณ์กลายเป็นเครื่องมือในเครือข่ายโจมตีโดยไม่รู้ตัว

    3. ช่องทางฟอกเงินผ่านเกม

    เกมบางประเภทที่มีระบบ ซื้อขายแลกเปลี่ยนไอเทมระหว่างผู้เล่น อาจถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน อาชญากรจะใช้บัญชีหลายบัญชีที่ควบคุมเองทำธุรกรรมโอนเงินในเกมหรือไอเทมที่มีมูลค่าไปมาระหว่างกัน เพื่อกลบเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เช่น เงินจากการหลอกลวงทางออนไลน์หรือธุรกิจผิดกฎหมายอื่น ๆ ทำให้เงินเหล่านั้นดูเหมือนเกิดจากการเล่นเกมโดยสุจริต

     

    ภัยแฝงในโลกเกมออนไลน์ เมื่อความสนุกกลายเป็นกับดักไซเบอร์

     

    วิธีป้องกันตนเอง

    1. ตรวจสอบสิทธิ์ของเกมก่อนติดตั้ง

    ก่อนดาวน์โหลดหรือติดตั้งเกมบนอุปกรณ์ของเด็ก ผู้ปกครองควรสังเกตว่าแอปเกมนั้นร้องขอสิทธิ์อะไรบ้าง เช่น การเข้าถึงกล้อง, ไมโครโฟน, รายชื่อผู้ติดต่อ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หากมีการขอสิทธิ์มากเกินความจำเป็น เช่น เกมธรรมดาแต่ขอเข้าถึงกล้องหรือข้อความ ควรพิจารณาหรือหลีกเลี่ยง เพราะอาจเป็นช่องทางให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลได้

    2. สอนให้รู้จัก “ความปลอดภัยออนไลน์”

    เด็กหลายคนไม่เข้าใจว่าโลกออนไลน์มี “คนไม่หวังดี” แฝงอยู่ การพูดคุยกับลูกอย่างเปิดใจ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์จริง เช่น ข่าวที่เด็กถูกล่อลวงผ่านเกม หรือการโดนขโมยรหัส สามารถช่วยให้เด็กตระหนักรู้และเริ่มระวังตัวได้เอง

    3. อย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัว / รหัสผ่านกับใคร แม้แต่เพื่อนในเกม

    สอนให้เด็กรู้ว่า “ชื่อจริง เบอร์โทร รหัสผ่าน หรือรหัส OTP” ไม่ควรถูกเปิดเผย ไม่ว่าจะกับใคร แม้จะเป็นเพื่อนที่เล่นเกมด้วยกันมานานก็ตาม เพราะไม่มีใครรู้ได้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และควรฝึกนิสัยเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยทุก 3 เดือน

    4. เปิดใช้งาน 2FA (Two-Factor Authentication)

    แนะนำให้เปิดระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้น สำหรับบัญชีเกมและแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Gmail, Facebook, Steam หรือ PlayStation Network เพราะจะช่วยป้องกันการเข้าถึงบัญชีจากบุคคลแปลกหน้า แม้จะรู้รหัสผ่านก็ตาม

    5. ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและไฟร์วอลล์

    อย่าลืมติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ และควรเปิดไฟร์วอลล์ (Firewall) เพื่อกันไม่ให้มัลแวร์จากไฟล์แปลกปลอมในเกมแทรกซึมเข้ามาในระบบ โดยเฉพาะเมื่อเด็กอาจเผลอกดดาวน์โหลดไฟล์โกงเกมหรือเกมเถื่อนที่มีความเสี่ยงสูง

    6. สื่อสารอย่างเปิดใจ ไม่ตำหนิเมื่อเกิดปัญหา

    หากลูกเกิดปัญหาในการเล่นเกม เช่น เผลอให้ข้อมูลส่วนตัวหรือถูกหลอกลวง ควรรับฟังโดยไม่ตัดสิน เพื่อให้ลูกกล้าเล่า และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย พ่อแม่ที่รับฟังอย่างเข้าใจจะกลายเป็นที่พึ่งทางใจในยามเด็กต้องเผชิญโลกออนไลน์ที่ซับซ้อน

    นักวิชาการแนะสร้างภูมิคุ้มกันผ่านครอบครัวและโรงเรียน

    ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้เด็กเกี่ยวกับเกมออนไลน์ ควรเริ่มที่ครอบครัวและโรงเรียน โดยใช้กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้น นำมาพูดคุยกับเด็กให้เข้าใจ และเปิดโอกาสให้เด็กได้เสนอความคิดเห็นอย่างไม่ตัดสินใจ จะช่วยป้องกันเด็กจากการหลอกลวงผ่านเกมออนไลน์ได้

    เกมออนไลน์ สามารถเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เสริมทักษะ และเชื่อมต่อกับผู้คนทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็น “ช่องทางลับ” ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการล่อลวงเหยื่อ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ไร้การป้องกันหน้าที่จึงไม่ใช่แค่ควบคุม แต่คือการ สื่อสารให้เข้าใจ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กได้รู้เท่าทันภัยในโลกไซเบอร์

    ข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ , ตำรวจภูธรภาค 9

     

    สารบัญประกอบ