แชร์

Copied!

เตือนภัย! มิจฉาชีพสวมรอยเป็นวิศวกรตรวจสอบบ้าน-อาคาร หลอกโกงมัดจำ

11 เม.ย. 6810:09 น.
เตือนภัย! มิจฉาชีพสวมรอยเป็นวิศวกรตรวจสอบบ้าน-อาคาร หลอกโกงมัดจำ

สารบัญประกอบ

    จากกรณีแผ่นดินไหว วันที่ 28 มี.ค. 68 ขนาด 8.2 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ส่งผลให้บริเวณกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ได้รับความรู้สึกสั่นไหว ส่งผลให้บ้านเรือน อาคาร และคอนโดมิเนียมหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย 

    ด้านกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ออกมาเตือนภัยผ่านเพจเฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง ว่ามีผู้แอบอ้างเป็นผู้ตรวจสอบอาคาร วิศวกรตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่เสียหายหวังเรียกเงินมัดจำและหายตัวไป

     

    โดยระบุว่า ระวังมิจฉาชีพหลอกรับตรวจโครงสร้างบ้านหลังแผ่นดินไหว

    จากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก มิจฉาชีพจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการสวมรอยเป็นวิศวกร หลอกตรวจโครงสร้างและอาคารที่เสียหาย ก่อนที่จะเชิดเงินมัดจำหายตัวไป

    โดยหากต้องการจะจ้างผู้ตรวจสอบอาคาร ตำรวจสอบสวนกลาง ขอแนะนำให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ตรวจสอบอาคาร ดังนี้

    • ต้องมีสัญชาติไทย
    • มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรหรือสถาปนิก ซึ่งทางกฎหมายได้ระบุไว้ว่า เป็นผู้ที่ได้รับการอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ตามกฎหมายที่ว่าด้วยวิศวกร หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมที่ควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยสถาปนิก
    • ผ่านการอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบสภาพบ้านหรืออาคาร และอุปกรณ์ของอาคารตามที่คณะกรรมการควบคุมอาคารรับรอง
    • ต้องได้รับการรับรองการขึ้นทะเบียนจากคณะกรรมการควบคุมอาคาร โดยต้องมีหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนผู้ตรวจสอบอาคารตามแบบ รต.1 จากคณะกรรมการควบคุมอาคาร
    • ต้องไม่เคยถูกถอดออกจากการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบอาคารในระยะเวลา 2 ปี ก่อนวันขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ

    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอฝากเตือนประชาชน ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และตรวจสอบให้ถี่ถ้วนทุกครั้ง ในการจ้างผู้เชี่ยวชาญในการตรวจบ้านและอาคาร

    ด้านชวลิต จันทรรัตน์ นายกสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย (วปท.) กล่าวว่า อาคารสาธารณะจะต้องผ่านการตรวจสอบทุกปี เช่น อาคารสูง อาคารที่มีผู้ใช้จำนวนมาก ต้องออกรายงานหรือใบรับรองตรวจสอบความถูกต้อง เป็นกฎหมายบังคับ และวิศวกรผู้ตรวจสอบอาคารต้องมีใบรับรองการจดทะเบียน และหากมีค่าใช้จ่ายจะไม่มีการเรียกเก็บล่วงหน้า

    “ผู้ตรวจสอบอาคาร หากไม่มีใบอนุญาต ก็ทำการตรวจสอบไม่ได้ กรณีที่ให้คำแนะนำการซ่อม ต้องออกใบรับรองประกอบ หากมีค่าใช้จ่าย ไม่ควรมีการเก็บค่าใช้จ่ายก่อน สามารถบอกขอบเขตยืนยันให้ลูกค้าผู้เช่าได้รู้ว่ามีการตรวจสอบว่ามีหรือไม่มีอะไรเสียหาย” 

     

    อีกทั้งการเลือกผู้ตรวจสอบอาคารที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีคุณสมบัติตามกฎหมายบังคับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและความปลอดภัยของอาคาร โดยผู้ตรวจสอบอาคารตามกฎหมาย สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

    1. ผู้ตรวจสอบอาคาร ประเภทบุคคลธรรมดา

    • ต้องมีสัญชาติไทย
    • ต้องมีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรหรือสถาปนิก ซึ่งได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกร หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมที่ควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยสถาปนิก
    • ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบสภาพบ้านหรืออาคาร และอุปกรณ์ของอาคารตามที่คณะกรรมการควบคุมอาคารรับรองและมีหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนผู้ตรวจสอบอาคารตามแบบ รต.1 จากคณะกรรมการควบคุมอาคาร
    • ไม่เคยถูกถอดออกจากการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบอาคารในระยะเวลา 2 ปี ก่อนวันขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ

    2. ผู้ตรวจสอบอาคาร ประเภทนิติบุคคล

    คุณสมบัติของผู้ตรวจสอบอาคารในรูปแบบนิติบุคคล จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งตั้งสมาชิกในคณะบริหารของนิติบุคคล เช่น หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการ กรรมการผู้จัดการ หรือผู้บริหารที่รับผิดชอบในการควบคุมและดูแลการตรวจสอบ โดยผู้บริหารเหล่านี้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

    • บริษัทต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย โดยต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งจากผู้ถือสัญชาติไทย และหุ้นส่วน ผู้ถือหุ้น หรือกรรมการต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ที่เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด
    • ในคณะผู้บริหารของนิติบุคคลต้องมีจำนวนสมาชิกไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการตรวจสอบสภาพอาคารและอุปกรณ์
    • สมาชิกในคณะผู้บริหารตามข้อ 3 ต้องไม่เคยถูกถอดถอนการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบอาคารในระยะเวลา 2 ปี ก่อนวันขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ
    • เป็นผู้ที่ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนจากคณะกรรมการควบคุมอาคาร โดยจะได้รับเอกสารรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบอาคารตามแบบ รต.1 จากคณะกรรมการควบคุมอาคาร

     ทริกการเลือกผู้ตรวจสอบอาคาร

    1. ต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญ มีความเข้าใจในมาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง 
    2. ต้องมีการส่งรายงานและให้คำแนะนำแก่เจ้าของอาคารได้ อย่างชัดเจนและเป็นระบบ พร้อมระบุประเด็นที่ต้องทำการแก้ไข 
    3. ต้องมีประสบการณ์ในประเภทของอาคาร รู้จักความแตกต่าง และข้อบกพร่องของอาคารแต่ละประเภท 
    4. ต้องมีใบรับรองและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในการตรวจอาคาร 
    5. ต้องมีความสามารถในการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ
    6. ต้องชัดเจนในการสื่อสาร เพื่อช่วยให้ลูกค้าทราบถึงปัญหาและเข้าใจถึงสภาพอาคารได้เป็นอย่างดี

    นอกจากนี้ สามารถเช็คข้อมูลบริษัทหรือผู้ตรวจสอบอาคารทั้งประเภทนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ที่จำเป็นต้องประกอบไปด้วยเลขที่บัตร วันหมดอายุบัตร

    ได้ที่ระบบบริการข้อมูลผู้ตรวจสอบอาคาร เว็บไซต์กรมโยธาธิการและผังเมือง

    https://webs-apps.dpt.go.th/dpt_auditbldg/BCB/search.php

     

    ที่มา : วิธีเลือกผู้ตรวจสอบอาคารที่น่าเชื่อถือ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

    สารบัญประกอบ