แชร์

Copied!

“ดีอี” เผยสถิติสแกน “Fake News” 1,170 ล้านข้อความ

8 เม.ย. 6811:29 น.
“ดีอี” เผยสถิติสแกน “Fake News” 1,170 ล้านข้อความ

สารบัญประกอบ

    ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เผยสถิติคัดกรองข้อความ Fake News ช่วง 6 ปี 1,172,694,555 ข้อความ พบข้อความเข้าเกณฑ์ตรวจสอบกว่า 74,892 ข้อความ แจ้งเตือนข่าวปลอม-บิดเบือน ประชาชนแล้วกว่า 10,000 เรื่อง

    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti Fake News Center: AFNC) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 - มีนาคม 2568 พบว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้ทำการคัดกรองจำนวนข้อความทั้งหมด 1,172,694,555 ข้อความ โดยมีจำนวนข้อความที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบ 74,892 ข้อความ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 68)

    สำหรับข้อความที่เข้าเกณฑ์ตรวจสอบดังกล่าว ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้บูรณาการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข่าวสาร ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน และสื่อมวลชน รวมเป็นเครือข่ายผู้ประสานงานกว่า 400 หน่วยงาน ซึ่งสามารถแบ่งประเภทข้อความได้ดังนี้

    1.เรื่องที่ส่งตรวจสอบ จำนวน 38,361 เรื่อง โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ข่าวสารที่ผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ดังนี้
    - เรื่องนโยบายรัฐบาล 18,168 เรื่อง (47.36%)
    - เรื่องสุขภาพ 14,082 เรื่อง (36.71%)
    - เรื่องเศรษฐกิจ 2,115 เรื่อง (5.51%)
    - เรื่องอาชญากรรมออนไลน์ 2,171 เรื่อง (5.66%)
    - เรื่องภัยพิบัติ 1,825 เรื่อง (4.76%)

    2.เรื่องที่ได้รับการตรวจสอบ มีจำนวนทั้งหมด 19,954 เรื่อง โดยแบ่งเป็น

    (1) ข่าวปลอม จำนวน 6,987 เรื่อง (35.01%)

    (2) ข่าวจริง จำนวน 7,955 เรื่อง (39.87%)

    (3) ข่าวบิดเบือน จำนวน 2,241 เรื่อง (11.23%)

    (4) ข้อมูลไม่เพียงพอ จำนวน 2,771 เรื่อง (13.89%)

    3.เรื่องที่ได้ดำเนินการเผยแพร่ข่าวสารที่ตรวจสอบแล้วให้กับประชาชนได้รับทราบจำนวนทั้งหมด 10,293 เรื่อง แบ่งเป็น

    (1) ข่าวปลอม จำนวน 7,230 เรื่อง (70.25%)

    (2) ข่าวจริง จำนวน 2,266 เรื่อง (22.01%)

    (3) ข่าวบิดเบือน จำนวน 797 เรื่อง (7.74%)

    กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้าใจ และชี้แจงข้อเท็จจริงและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอย่างทันท่วงทีแก่ประชาชน ผ่านกระบวนการตรวจสอบข้อมูลอย่างรัดกุม ซึ่งในอนาคตจะมีการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยในการตรวจสอบข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน และข่าวจริง รวมทั้งการแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ หรืออาชญากรรมออนไลน์ ในรูปแบบต่าง ๆ ให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ เพื่อลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน

    ทั้งนี้หากพบหรือสงสัยว่าภาพหรือข่าวที่ได้รับเชื่อถือได้หรือไม่ สามารถส่งเรื่องราวต่าง ๆ มาแจ้งทีมงาน Thai PBS Verify ได้ทาง Inbox Facebook : https://m.me/ThaiPBSVerify หรือ Email : Verify@thaipbs.or.th

    "ตรวจสอบข่าวปลอม คัดกรองข่าวจริง" กับ #ThaiPBSVerify ได้ที่
    • Website : www.thaipbs.or.th/Verify
    • Facebook : www.facebook.com/ThaiPBSVerify
    • IG : www.instagram.com/ThaiPBSVerify
    • TikTok : www.tiktok.com/@ThaiPBSVerify
    • LINE : www.thaipbs.or.th/LINEVerify

    สารบัญประกอบ