คำศัพท์คุ้นหู คนรักกาแฟ


Lifestyle

29 ก.ย. 66

ธนบัตร ลิ้มธนสาร

Logo Thai PBS
แชร์

คำศัพท์คุ้นหู คนรักกาแฟ

https://www.thaipbs.or.th/now/content/387

คำศัพท์คุ้นหู คนรักกาแฟ
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

นี่เรากำลังอยู่ในยุคที่การดื่มกาแฟ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มสร้างความสดชื่น ตื่นตัว แต่กลับมีความซับซ้อนมากกว่าแต่ก่อน ทั้งการเป็นเครื่องดื่มตามสมัยนิยมที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและมีระดับ ไปจนถึงการปรับตัวของร้านกาแฟที่ไม่ได้มีดีแค่กาแฟ แต่ต้องตกแต่งสถานที่ให้สามารถถ่ายภาพสวยงามอวดเพื่อนในโซเชียล แถมยังมีคำศัพท์อีกตั้งมากมายที่ฟังแล้วไม่ค่อยจะเข้าใจ 

แล้วการจะเป็นมือใหม่ในวงการกาแฟยุคนี้ เราต้องรู้คำศัพท์อะไรบ้างนะ ?

กาแฟสเปเชียลตี้ (Specialty Coffee) 

ถือเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับกาแฟที่ให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในส่วนของเมล็ด ที่จะต้องเป็นเกรดพิเศษที่ได้รับการทดสอบกลิ่นและรส จากสมาคมกาแฟพิเศษ หรือ Specialty Coffee Association (SCA) ซึ่งต้องได้คะแนนมากกว่า 80 คะแนนขึ้นไป แต่ในเรื่องนี้หลายคนไม่เข้าใจ และอาจไม่รู้ว่าเมล็ดกาแฟที่ขายทั่วไปในร้านคาเฟ่ ก็อาจจะไม่ใช่ Specialty Coffee ก็เป็นได้

Drip Coffee 

ถือเป็นวิธีการชงกาแฟรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถดึงรสชาติของกาแฟคั่วบดได้ดี โดยใช้การเทน้ำร้อนผ่านกาแฟและตัวกรอง ซึ่งอาจจะเป็นกระดาษ ถุงกรอง หรือตะแกรงก็ได้ ใช้เวลาให้กาแฟค่อย ๆ ไหลผ่านไปประมาณ 3 – 4 นาที ก็จะได้กาแฟที่หอมหวน รสชาติดี เหมาะกับการใช้งานกับเมล็ดกาแฟเกรด Specialty

Speed Bar / Slow Bar 

ทั้งสองคำนี้เป็นวิธีการทำกาแฟ โดย Speed Bar เป็นการใช้แรงดันเข้ามาเป็นตัวช่วยในการสกัดกาแฟออก ซึ่งวิธีนี้จะมีความรวดเร็วทันใจ และเชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับการชงกาแฟด้วยวิธีการนี้มากที่สุด นั่นก็คือการชงกาแฟผ่านเครื่องนั่นเอง 

ส่วน Slow Bar นั้นจะเป็นกาแฟที่ใช้เวลาในการทำนานกว่า และมีกระบวนการที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การดริป (Drip), Pod Coffee หรือ Syphon

กาแฟคั่วเข้ม (Dark Roast) / คั่วกลาง (Medium Roast ) / คั่วอ่อน (Light Roast)

รับกาแฟคั่วอ่อน หรือคั่วเข้มคะ ? พอเจอคำถามนี้เข้าไปหลายคนก็อาจจะงงว่า แล้วฉันต้องตอบยังไงล่ะ ? เรามาดูความแตกต่างของกาแฟแต่ละประเภทกันดีกว่า สำหรับการคั่วกาแฟก็คือการนำเมล็ดกาแฟดิบมาคั่วผ่านความร้อน ซึ่งระยะเวลาของการคั่ว จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กลิ่น และรสชาติของกาแฟแตกต่างกันออกไปดังนี้

  • Light Roast: กาแฟคั่วอ่อน ระดับนี้กาแฟจะยังโดนความร้อนไม่มากนัก ทำให้ยังหลงเหลือความเปรี้ยวของผลไม้อยู่มาก
  • Medium Roast: กาแฟคั่วกลาง ความร้อนในระดับนี้จะทำให้ความเปรี้ยวเริ่มลดลง และจะเริ่มมีความหวานเข้ามามากขึ้น
  • Dark Roast: กาแฟคั่วเข้ม เป็นระดับที่มีความเปรี้ยวของกาแฟน้อยที่สุด และจะมีความขมเพิ่มขึ้นมา

ส่วนเราจะเลือกแบบไหน ก็คงแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน อย่างไรก็ตามก็อยากให้หาโอกาสได้ลองทุกแบบก่อน เราจะได้เลือกถูกว่าเราชอบแบบไหนมากที่สุดนั่นเอง

Cold Brew

ถือเป็นวิธีการสกัดกาแฟแบบหนึ่ง แต่วิธีนี้เราจะใช้น้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้องในการให้น้ำไหลผ่าน หรือแช่เอาไว้ 12 – 18 ชม. ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้รสกาแฟหอมหวานมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟดำ

Latte Art

ถือเป็นศิลปะบนถ้วยกาแฟที่สร้างความสุนทรีย์ให้กับการดื่มกาแฟได้มากขึ้น โดยบาริสต้าจะสร้างสรรค์ลวดลายลงบนฟองนมให้เป็นรูปต่าง ๆ ทั้งดอกไม้ ใบไม้ รูปหัวใจที่หลายคนคุ้นชิน หรือถ้าจะออกแบบให้สวยงามแปลกตาแค่ไหนก็แล้วแต่จะสร้างสรรค์กันออกมา งานนี้คนดื่มกาแฟก็จะได้ทั้งการดื่มด่ำรสกาแฟ และเสพศิลปะไปได้พร้อมกัน

ยังมีคำศัพท์อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับกาแฟสำหรับคนรักกาแฟแบบสุด ๆ และต้องการเป็นบาริสต้าฝีมือเยี่ยม แต่สำหรับมือสมัครเล่นอย่างเรา การได้รู้คำศัพท์เพียงเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอที่จะไปคุยกับเพื่อนเวลาไปคาเฟ่ หรือสั่งกาแฟได้เข้าใจมากขึ้นแล้วล่ะ ไม่แน่ว่าการสั่งกาแฟของคุณในครั้งหน้า (หรือการพูดคุยกับบาริสต้าที่เราแอบชอบ) อาจจะสนุกขึ้นก็ได้นะ อิอิ 

ชวนชม ! การทำฟองครีมแบบสามมิติสุดน่ารักของร้านกาแฟแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในรายการ ดูให้รู้ ตอน ฟองครีมสามมิติ และเจ้าชายแพนเค้ก ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application

แท็กที่เกี่ยวข้อง

กาแฟความรู้coffeeDrip CoffeeSpecialty Coffeeกาแฟสเปเชียลตี้วันกาแฟสากลSlow BarSpeed BarDark RoastLight Roastคั่วกลางCold BrewLatte ArtInternational Coffee DayวันสำคัญThai PBS On This DayThai PBS LifestyleVIPAVIPAdotMe
ธนบัตร ลิ้มธนสาร
ผู้เขียน: ธนบัตร ลิ้มธนสาร

RadioMan ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของวิทยุ เพลง 90 และการเดินทาง

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด