PARADOX วงดนตรีขวัญใจเด็กแนว ที่มีแนวทางเป็นของตัวเองแบบชัดเจน ทั้งแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อร้องทำนองที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร รวมไปถึงสไตล์การแต่งตัว และการ Performance บทเวที ทำให้วงนี้โดดเด่นจนสร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงได้ตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูกเลยก็ว่าได้
จุดเริ่มต้นวง PARADOX เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหา’ลัย ซึ่งเดิมเคยใช้ชื่อวงว่า “หอยจ๊อ” จากนั้นพวกขาจึงทำวงกันมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น PARADOX ในทุกวันนี้ ซึ่งปัจจุบันสมาชิกของวง PARADOX ประกอบไปด้วย ต้า-อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา (นักร้องนำ, กีตาร์), สอง-จักรพงศ์ สิริริน (เบส), บิ๊ก-ขจัดภัย กาญจนาภา (กีตาร์) และ โจอี้-เสรฐพร กฤดากร ณ อยุธยา (กลอง)
ห้องทดลองของ PARADOX
PARADOX เป็นวงดนตรีที่ทำเพลงเองทั้งหมด โดยมีแนวคิดที่ว่า อยากทดลองทำเพลงกันเอง เรียนรู้การสร้างแนวเพลงใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะทางเนื้อร้อง หรือทำนอง ซึ่งการทดลองนี้ ต้าร์ PARADOX ฟรอนต์แมนประจำวงได้เผยว่า วิธีการทำเพลงของวงส่วนใหญ่จะมีจุดเริ่มต้นจากการเล่นกีตาร์และฮัมเพลงขึ้นมา และเมื่อได้โครงสร้างของเพลงแล้วก็ทำเป็น DEMO จากนั้นก็ส่งต่อให้เพื่อน ๆ สมาชิกในวงช่วยกันระดมความคิด โดยไม่ได้กำหนดโทนของเพลงว่าจะออกมาในแนวใดแนวหนึ่ง ใครมีความคิดอะไรก็ช่วยกันละเลงความคิดลงไปรวมกันในเพลง ๆ นั้น
ผลงานแต่ละชิ้นที่ได้จึงมักจะเป็นเพลงที่งอกขึ้นมาแบบอัตโนมัติ มีสีสันที่หลากหลายมิติ ซึ่งนั่นทำให้เพลงของ PARADOX มี Mood & Tone ที่หลากหลาย ไม่ซ้ำจำเจ มีเนื้อหาแปลกใหม่มาเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ได้อยู่เสมอ
นอกจากการทดลองทำเพลงที่แปลกแหวกแนวของวงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ “การทดลองกับผู้ฟัง” ซึ่ง ต้าร์ PARADOX เผยว่า สิ่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนห้องทดลองวิทยาศาสตร์ โดยการสร้างเพลงใหม่ ๆ ออกมาแต่ละครั้ง เขาเปรียบเหมือนการทดลองให้คนฟังได้ประมวลผลเกี่ยวกับเนื้อเพลงแปลก ๆ ที่แทรกอยู่ในแต่ละท่อน แล้วจินตนาการออกมาเป็นภาพ ๆ หนึ่ง
ซึ่งจุดเริ่มต้นความคิดนี้เกิดจากการที่ในสมัยก่อนผู้คนมักจะบอกว่าเพลงของ PARADOX นั้นฟังไม่รู้เรื่อง ทางวงจึงได้ไอเดียที่ว่า “ลองทำให้ไม่รู้เรื่องดู จากนั้นรอดูว่าถ้าคนได้ฟังแล้วเขาจะคิดยังไง”
ตัวอย่างเนื้อเพลงในการทดลองนี้ เช่นท่อนที่ร้องว่า “ความพ่ายแพ้ลวงหลอกลมหายใจ สิ่งสุดท้ายลวงหลอกการเริ่มใหม่” หรือ “ฟันปลอมแท้” เนื้อร้องจากเพลง “หลุมศพปลาวาฬ” ซึ่งจากเนื้อหาแปลก ๆ ที่หยอดอยู่ในเพลงนี้ ผู้ฟัแต่ละคนสามารถตีความกันไปหลากหลายรูปแบบ ไม่มีผิด ไม่มีถูก
จากการทดลองนี้ ต้าร์ PARADOX ได้เปิดใจว่า เปรียบเสมือนดาบ 2 คม ข้อดีของมันคือการทำเพลงแนวนี้จะได้ความใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เพลงของวงไม่น่าเบื่อ และเป็นสิ่งที่คนฟัคาดเดาไม่ได้ แต่ข้อเสียก็คือ การทำเพลงที่แปลกแหวกแนวเช่นนี้ จะเข้าถึงคนฟังเฉพาะกลุ่ม เพราะด้วยสไตล์วงที่ไม่ชอบความเรียบง่าย จึมีการใส่เนื้อเพลงแปลก ๆ เข้าไป และจากโครงสร้างแบบนี้ ทำให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเพลงของคนอื่น เมื่อฟังแล้วรู้สึกไม่ลื่นหู คนจึไม่ค่อยฟังเพลงของ PARADOX สักเท่าไร
สิ่งแปลกใหม่ ไม่ใช่เรื่องประหลาด
แม้จะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่า การทดลองทำเพลงแบบนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่สิ่งที่ PARADOX ยึดมั่นไม่เคยเปลี่ยนนั่นคือ “การทดลอง” วงนี้ยังคงสนุกกับการทดลองอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ และความแปลกใหม่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดจนคนฟังไม่เข้าใจ
หลาย ๆ บทเพลงของ PARADOX กลายเป็นเพลงดังข้ามเวลา ที่แม้จะผ่านไปกี่สิบปี หลายคนก็ยังคงร้องเพลงของ PARADOX กันได้เป็นอย่างดี นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม PARADOX ยังคงความเป็นวัยรุ่นตลอดกาล
ทุกความบ้า ความมัน ความห่าม การได้ลองผิดลองถูกในสิ่งที่ไม่เคยทำ นั่นคือความเป็น “วัยรุ่น” ซึ่งพวกเขาได้แสดงออกมาผ่านแนวเพลง และตัวตน นี่คือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ของวงดนตรีที่ชื่อ PARADOX
บทสรุป
PARADOX ถือเป็นตัวแทนของการเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำได้เป็นอย่างดี แม้บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้มาอาจไม่เป็นไปตามความคาดหวัง แต่การเดินหน้ายึดมั่นในสิ่งที่รัก ในแนวทางที่ชัดเจนของตัวเอง แม้ความสำเร็จอาจเดินทางมาถึงช้า แต่เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะสามารถเฉิดฉายได้อย่างสง่างาม
เหมือนกับทุกวันนี้ที่ PARADOX ได้ขึ้นเป็นวงดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย ที่สร้างความสุขผ่านเสียงเพลงให้กับคนฟังอย่างเราได้ตลอดหลายสิบปี กลายเป็นวงดนตรีที่แฟนเพลงยอมรับในฝีมือมาจนถึงปัจจุบัน
ติดตามชมรายการ "นักผจญเพลง Replay" ได้ทุกวันเสาร์ 21.30 น. ทาง #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3 หรือชมสดทาง https://www.thaipbs.or.th/live
ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์
- Apple Music
- Spotify
- Facebook สตูดิโอแลนด์