ก.พาณิชย์คาดโทษฉวยโอกาสขึ้นราคา-กักตุนน้ำดื่มขวด พบฝ่าฝืนโดนคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท 
วันนี้ (15 ก.ค. 2558) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงข้อกังวลน้ำดื่มบรรจุขวดอาจขาดตลาดว่า มอบหมายให้กรมการค้าภายในตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่ และได้รับการยืนยันว่าปัญหาภัยแล้งไม่กระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำดื่ม เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้น้ำใต้ดินในการผลิต ทั้งนี้ ได้ประกาศราคาน้ำดื่ม โดยขวดพลาสติกใสขนาด 500-600 มิลลิลิตร ไม่แช่เย็น ให้จำหน่ายไม่เกินขวดละ 7 บาท และแช่เย็นจำหน่ายไม่เกินขวดละ 10 บาท
“หากพบว่าร้านค้าจำหน่ายเกินราคาแนะนำหรือกักตุน กระทรวงพาณิชย์จะออกมาตราการเข้มงวดมากขึ้น โดยประกาศเป็นราคาควบคุม และหากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พล.อ.ฉัตรชัยระบุ
ด้าน นายเชาวรินทร์ กิ่งแก้ว รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการผลิตน้ำประปาว่า แม้ว่า กปน. พยายามเลี่ยงสูบน้ำดิบช่วงเวลาที่ค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงที่สุดในรอบปีที่ 1.04 กรัมต่อลิตร ณ สถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี วานนี้ (14 ก.ค. 2558) ขณะที่ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0.25 กรัมต่อลิตร และประชาชนเริ่มรับรู้ความเค็มได้ที่ 0.5 กรัมต่อลิตร แต่เพราะคลองประปาสามารถสำรองน้ำได้เพียง 3 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องสูบน้ำที่มีค่าความเค็มเกินมาตรฐานมาผลิตน้ำประปา โดยการประปานครหลวงไม่สามารถกรองความเค็มออกได้ ส่งผลให้บางช่วงเวลาของวันนี้ (15 ก.ค. 2558) น้ำประปาจะมีรสกร่อย
“เมื่อช่วงเวลา 03.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ค่าความเค็มขึ้นสูงที่สุดที่ 0.92 กรัมต่อลิตร ซึ่งนับว่าสถานการณ์ยังคงทรงตัว และเมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา ค่าความเค็มยังคงเกินค่ามาตรฐานที่ 0.44 กรัมต่อลิตร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซึ่งแม้เขื่อนเจ้าพระยาได้เร่งระบายน้ำลงมาผลักดันน้ำทะเลมากขึ้นที่ 85 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่สถานการณ์น้ำเค็มรุกแม่น้ำเจ้าพระยายังคงไม่คลี่คลาย