วันที่ 28 เม.ย.2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่นครพนม ร่วมกับนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ว่า คณะรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) เพื่อติดตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง
นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศ ในการหารือกับลาว เพื่อหาแนวทางในการสร้างโอกาสให้กับประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะภาคคมนาคมทางอากาศ ซึ่งจะสนับสนุนให้มีสายการบินราคาประหยัด (Low cost) ร่วมเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะใช้ประโยชน์พื้นที่สนามบินสะหวันนะเขต เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศต่อไป
นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยังไม่มีนโยบายก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร เนื่องจากไม่คุ้มค่า เพราะการลงทุนก่อสร้างสนามบินแต่ละแห่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดบเห็นว่าการใช้สนามบินในพื้นที่ใกล้เคียงน่าจะเหมาะสมกว่า
ขณะที่นางมนพร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานนครพนม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 และการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร) พร้อมประชุมติดตามการดำเนินงานหน่วยงานในกำกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)
นางมนพร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งในปี 2568 รัฐบาลจะผลักดันให้เป็นปีทองแห่งการท่องเที่ยว พร้อมปรับรูปแบบเมืองรองการท่องเที่ยวเป็น “เมืองน่าเที่ยว” ทั่วไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้าง Soft Power ให้กับประเทศไทย
ด้วยการทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 จังหวัดภาคอีสานตอนบน 2 ประกอบด้วย นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ให้สามารถเดินทางได้สะดวกและครอบคลุมทุกมิติ

สำหรับการคมนาคมทางอากาศ ได้ผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานคมนาคมและสายการบิน เพิ่มเส้นทางการบินมายังท่าอากาศยานนครพนมและสกลนคร เพื่อสนับสนุนและยกระดับเมืองท่องเที่ยวตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของรัฐบาลที่สอดคล้องกับนโยบายคมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย
ปัจจุบันท่าอากาศยานนครพนม มี 3 หลุมจอด สามารถเดินทางด้วยสายการบินพาณิชย์ในประเทศ รวม 12 เที่ยวบิน ด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย 8 เที่ยวบินต่อวัน และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (เริ่มวันที่ 19 มิ.ย.2568) 4 เที่ยวบินต่อวัน
ส่วนท่าอากาศยานสกลนคร มี 4 หลุมจอด สามารถเดินทางด้วยสายการบินพาณิชย์ในประเทศ รวม 8 เที่ยวบิน ให้บริการด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชียและนกแอร์ สำหรับโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
นางมนพร ได้สั่งการให้ ทย. จัดพื้นที่ภายในและบริเวณโดยรอบท่าอากาศยานให้เกิดความสะดวก สะอาด และรวดเร็วแก่ผู้โดยสาร กำชับเรื่องการจัดเตรียมไฟฟ้าสำรองในทุกท่าอากาศยานเมื่อยามเกิดเหตุฉุกเฉิน บริหารจัดการจุด Check in ให้มีความคล่องตัวไม่ติดขัด รวมถึงให้เข้มงวดกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสิ่งของผิดกฎหมาย พร้อมจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอกับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน
รวมถึงการจัดกิจกรรมภายในท่าอากาศยานตามแนวคิด “สนามบินมีชีวิต” เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัด ชูจุดเด่นด้านต่าง ๆ ของจังหวัด สนับสนุนร้านค้าท้องถิ่นในชุมชนหรือจัดงานตามวันเทศกาลที่สำคัญของไทยภายในท่าอากาศยาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยวเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
นางมนพร กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานได้มอบหมายให้ ทย. ดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนครพนมในปี 2568 ด้วยงบประมาณกว่า 165.99 ล้านบาท ดำเนินการแล้ว 4 โครงการ ประกอบด้วย งานปรับปรุงระบบประปา งานซื้อและติดตั้งผิวต่างสัมผัสสำหรับผู้พิการทางการมองเห็น จัดหาพร้อมติดตั้งระบบตรวจสอบรถยนต์เข้า - ออก และอยู่ระหว่างดำเนินการ 4 โครงการ ประกอบด้วย งานปรับปรุงระบบไฟฟ้าสนามบินทั้งระบบ จัดหารถดับเพลิง ระบบกริ่งสัญญาณเตือนฉุกเฉิน และงานก่อสร้างระบบจ่ายน้ำดับเพลิงอากาศยาน
อ่านข่าว : เชิญ "วินธัย" ชี้แจง ปมแจ้งความ ม.112 “พอล แชมเบอร์ส" 8 พ.ค.นี้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: