วันนี้ (28 เม.ย.2568) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิดในท่าเรือชาฮิด ราจาอี ในเมืองบันดาร์ อับบาส ทางตอนใต้ของอิหร่าน ซึ่งยังมีไฟโหมกระหน่ำแม้เวลาจะล่วงเลยมาแล้ว 2 วัน นับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทิ้งสารเคมีลงจากเฮลิคอปเตอร์เพื่อควบคุมไฟ
ทางการท้องถิ่นระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 คนและบาดเจ็บอีกมากกว่า 1,200 คน ซึ่งในจำนวนนี้หลายคนถูกนำตัวเข้ามารักษาในกรุงเตหะราน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน เตือนประชาชนในบริเวณใกล้กับท่าเรือให้อยู่แต่ภายในอาคารและสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายให้มิดชิดมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางการอิหร่านยังประกาศให้วันนี้ (28 ม.ย.) เป็นวันไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ ส่วนในจังหวัดที่เกิดเหตุจะมีการไว้อาลัยต่อไปอีก 2 วัน
ด้านกระทรวงกลาโหมอิหร่าน ปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศที่ระบุว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับสารเคมีที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงแข็งในขีปนาวุธ ขณะที่โฆษกรัฐบาลอิหร่านระบุว่าไม่ควรคาดการณ์สาเหตุของการระเบิดล่วงหน้าจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น
ส่วนหน่วยงานด้านการบริหารสภาวะวิกฤต ระบุว่า ระเบิดเป็นผลมาจากการจัดเก็บสารเคมีอย่างไม่เหมาะสมในท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้หน่วยงานเคยเตือนหลายครั้งแล้ว ขณะที่อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน สั่งการให้สอบสวนว่ามีความประมาทเลินเล่อหรือเป็นการกระทำโดยเจตนา ที่เป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้นหรือไม่
เหตุระเบิดเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้แทนของอิหร่านและสหรัฐฯ หารือในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน รอบที่ 3 ที่โอมาน โดยทั้ง 2 ฝ่ายระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าและตกลงจะพบกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
อ่านข่าว
ระเบิดท่าเรืออิหร่านตายแล้ว 14 คน สั่งปิดโรงเรียนหนีควันพิษ
ทรัมป์สั่งโจมตีเยเมน ผู้อพยพแอฟริกัน 68 ชีวิตดับในศูนย์กักกัน