วันนี้ (9 เม.ย.2568) ตลอดทั้งคืนถึงแม้จะยังไม่สามารถลดความสูงลงมาได้ตามเป้าหมายที่คาดเอาไว้ ว่าจะรื้อถอนเพื่อลดระดับของซากอาคารให้ได้ถึง 5 เมตร แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายาม นำรถแบ็กโฮ พร้อมอุปกรณ์เครื่องจักรหนัก ขึ้นไปอยู่ในพื้นที่สูง ใกล้เคียงจุดสูงของซากอาคารหรือโซนอีให้ได้มากที่สุด เพื่อรื้อถอนโครงสร้าง เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการค้นหาผู้ติดค้างภายใน
แต่ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าพบผู้ติดค้างอยู่ภายในอย่างเป็นทางการแต่พบจุดต้องสงสัยที่เป็นโพรง จึงพยายามเข้าค้นหา แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ จำเป็นต้องให้รถเครื่องจักรเดินหน้าทำงานต่อเนื่อง
ตามแผนที่จะใช้รถเครนขนาด 1,000 ตัน ยังคงไม่สามารถดำเนินการได้ ติดในเรื่องของอุปกรณ์ประกอบชิ้นส่วน ยังเดินทางมาไม่ครบ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดหวังว่า จะสามารถนำมาประกอบชื่นและสนับสนุนการรื้อถอนให้ได้โดยเร็วที่สุด ภายในวันนี้
ขณะที่เศษเหล็กและเศษปูนที่เจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนลงมาได้ ถูกขนโดยรถบรรทุกทหารออกจากพื้นที่ตลอดทั้งคืนเพื่อนำไปไว้บริเวณพื้นที่ของการรถไฟ ในพื้นที่เขตจตุจักร อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มพื้นที่การปฎิบัติงาน
ส่วนยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 21 คน ยังคงสูญหาย 73 คน

"แพทองธาร" สั่งทำโมเดลเหตุ ตึก สตง.ถล่ม 90 วัน
ระหว่างการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริง เหตุอาคาร สตง.ถล่ม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำชับให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย อธิบดีกรมโยธาธิการ และผังเมือง รวมถึงผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน-เพื่อให้ได้คำตอบข้อเท็จจริง เหตุตึก สตง.ถล่ม
พร้อมย้ำว่า ข้อเท็จจริงที่จะปรากฏนี้ ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย แต่ทั่วโลกก็ต้องการฟังคำตอบนี้เช่นกัน พร้อมย้ำว่า กฎหมายที่ออกมาบังคับใช้กับบริษัทผู้รับเหมา จะต้องสร้างอาคารได้มาตรฐาน และสามารถรองรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นได้ พร้อมเร่งเคลียร์พื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน รวมถึงการจัดทำโมเดลหาสาเหตุตึก สตง. ถล่ม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานาน 90 วัน
นายกฯ ระบุว่า จำเป็นต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบตึกอาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชน และของราชการ โดยเฉพาะการทบทวนการอนุมัติสัญญาการก่อสร้าง เพื่อให้มาตรฐานความปลอดภัย และมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมเร่งให้มีการตรวจสอบเหล็ก ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะต้องมีผู้รับผิดชอบ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ระบุว่า พบข้อมูล-บริษัทเหล็กกว่า 20 บริษัท เป็น "นอมินี" เชื่อมโยงกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม พร้อมเตรียมส่งข้อมูล-หลักฐาน ให้ "ดีเอสไอ" ตรวจสอบเชิงลึก หากพบกระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีทุกฐานความผิดอย่างถึงที่สุด และหลังสงกรานต์จะพยามยามตรวจสอบบริษัทเหล็กทุกพื้นที่

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หารือร่วมกับ 3 หน่วยงาน คือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อวางทิศทางทำงานร่วมกัน
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่า นอกจากเรื่องของตรวจสอบตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือ นอมินี แล้ว จะตรวจสอบเรื่องของการเสนอราคาอย่างไม่เป็นธรรม(ฮั้วประมูล) ด้วย รวมไปถึงเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นไปตามมาตร ฐานหรือไม่ โดยเฉพาะเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดเป็นคดีที่เกี่ยวพันกัน จึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การทำงานเป็นเอกภาพไปในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ชายสัญชาติไทย 3 คน ที่มีมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทไชน่าฯ ตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา จึงอยากให้แสดงตัว เนื่องจากยอมรับเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัย เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่มีความเป็นกังวล และขอไม่ลงรายละเอียด แต่การหายตัวไปนาน ๆ ก็น่าเป็นห่วงเพราะอาจมีหลายสาเหตุ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเร่งติดตามอยู่
อ่านข่าวอื่น :